และด้วยเหตุนี้ทางหัวหน้าไลฟ์การ์ด หาดสุรินทร์-บางเทา ได้วอนขอหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดภูเก็ตที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ให้ทำการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการลงเล่นน้ำทะเลในช่วงหน้ามรสุมอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการแก้ปัญหาที่ต้นทาง เพราะการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวให้รอดชีวิตจากการจมน้ำทะเลของพนักงานไลฟ์การ์ดที่ปฏิบัติหน้าที่กันในทุก ๆ วันนั้นยังไม่เพียงพอ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (25 มิ.ย. 67) นายวิรุฬ เชื้อสมัน หัวหน้าไลฟ์การ์ด หาดสุรินทร์-บางเทา เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต ว่า การตักเตือนและการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เพื่อลดความสูญเสียจากการจมน้ำในทะเลทุกวันนี้เป็นเหมือนการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
“อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างจังหวัดและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทำการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นถึงอันตรายของการฝ่าธงแดงลงเล่นน้ำในหน้ามรสุม” นายวิรุฬ กล่าว
“อยากให้โปรโมทเพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นภาพ อธิบายให้รับรู้รับทราบ เริ่มจากสนามบินที่เมื่อนักท่องเที่ยวลงจากเครื่องบินก็จะได้รับรู้ข้อมูล ให้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว หลังจากนั้นก็คือการประชาสัมพันธ์ตามที่พักและโรงแรมต่าง ๆ เพื่อเน้นย้ำให้นักท่องเที่ยวรับทราบและเข้าใจถึงอันตรายในช่วงฤดูมรสุม”
“การแก้ปัญหาต้องมองถึงความเป็นจริงของพื้นที่ อย่างในระยะ 1 กิโลเมตรของแต่ละท้องถิ่นแต่ละชายหาดมีไลฟ์การ์ดกี่คน มีนักท่องเที่ยวที่ลงมาเที่ยวชายหาดกี่คน คิดว่ามันเพียงพอหรือไม่กับการเฝ้าระวังความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว” นายวิรุฬ กล่าว
“นักท่องเที่ยวกว่า 70-80% ฝ่าฝืนสัญลักษณ์ธงแดง ปฏิเสธที่จะเชื่อฟังไลฟ์การ์ดในการห้ามลงเล่นน้ำ เขามาเที่ยว เขาอยากเล่นน้ำ เราจะบอกยังไงได้อีก ซึ่งวันไหนอากาศดีเราก็เปิดให้เล่นบ้าง” นายวิรุฬ กล่าว
หัวหน้าไลฟ์การ์ดหาดสุรินทร์-บางเทาที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี เน้นย้ำอีกว่า การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเป็นเคส ๆ นั้นเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ อยากเห็นการแก้ไขที่ต้นเหตุ อยากให้ภาครัฐได้ทุ่มงบเพื่อลดความสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด ไม่ใช่ใช้งบประมาณไปกับส่วนอื่นที่ไม่ได้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง
ความสูญเสีย
สำหรับความสูญเสียในภูเก็ตล่าสุด คลื่นได้พรากชีวิตชายชาวเบลเยียมไปในวันที่ 22 มิ.ย. เมื่อเวลาประมาณ 15.50 น. นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 3 คนได้ลงเล่นน้ำที่หาดฟรีดอม แล้วโดนกระแสคลื่นซัดออกไปในทะเลไลฟ์การ์ดช่วยเหลือได้ 2 คนและจมน้ำสูญหาย 1 คนคือ นายลูโววาดิโอ อัลลัน เดอรัต เจ. ชาวเบลเยียม ก่อนที่จะพบเป็นร่างไร้วิญญาณถูกคลื่นซัดมาเกยหน้าหาดในอีกสองวันถัดมาบนหาดเดิมที่เขาถูกกระแสน้ำพัดพาร่างออกไป
ช่วงบ่ายของวันที่ 18 มิ.ย. นักท่องเที่ยวอินเดีย 4 คน ฝ่าธงแดงลงเล่นน้ำที่หาดกะรนถูกคลื่นซัดออกนอกฝั่ง เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดประจำหาดกะรน และผู้ประกอบการเรือสปีดโบ๊ท ร่วมช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวทั้ง 4 ราย ขึ้นจากทะเลอย่างทุลักทุเล เนื่องจากคลื่นลมแรง และจุดที่เกิดเหตุเป็นจุดที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว ในขณะเดียวกันที่หาดป่าตองมีเหตุเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดเตือน 2 ครั้งแต่ไม่ฟังยังดื้อลงเล่นสุดท้ายติดกระแสน้ำ เคราะห์ดีไลฟ์การ์ดช่วยเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ช่วงเช้าในเวลาประมาณ 07.00 น. เกิดเหตุหนุ่มอเมริกันและสาวพยาบาลวิชาชีพฝ่าธงแดงลงเล่นน้ำจมดับทั้งคู่ที่หาดไม้ขาว จุดเกิดเหตุบริเวณชายหาดมีคลื่นลมแรง พบนักท่องเที่ยวและประชาชนกำลังเฝ้าดูเหตุการณ์ ตรวจสอบทราบว่าชายผู้เสียชีวิตชื่อ นายเจมส์ เอ็ดมอนด์ นิวแมน อายุ 45 ปี สัญชาติอเมริกัน ส่วนศพผู้หญิงลอยอยู่ในน้ำทะเลโดนคลื่นซัดขึ้นลง หลังจากนั้น จนท.ได้นำร่างขึ้นมาได้พบว่า เป็นผู้หญิงชาวไทยทราบชื่อภายหลังคือ นางวรัญญา จันทร์ไผ่ อายุ 49 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ เป็นพยาบาลวิชาชีพจังหวัดสุรินทร์ เบื้องต้นทราบว่าทั้งคู่ได้มาเปิดห้องพักที่โรงแรมดังกล่าว คาดว่าในช่วงเช้าตรู่ ทั้งคู่ได้ลงไปและน้ำบริเวณหน้าหาดไม้ขาวแล้วถูกคลื่นซัดจมน้ำและเสียชีวิตทั้งคู่
บ่ายวันที่ 16 มิ.ย. ชายรัสเซียฝ่าฝืนธงแดงลงเล่นน้ำในทะเล โดนกระแสคลื่นซัดหมดแรงจมน้ำดับ ทราบชื่อ นายอเล็กเซย์ อาโปสโตลอฟ อายุ 64 ปี สัญชาติรัสเซีย พักอยู่ที่คอนโดในพื้นที่หาดสุรินทร์ ด้านไลฟ์การ์ดหาดสุรินทร์ ได้ให้การว่า ชายคนดังกล่าวมาคนเดียว โดยได้มาลงเล่นน้ำประมาณเวลา 15.00 น. และได้ฝ่าฝืนธงแดงบริเวณแนวร่องกระแสน้ำ จากนั้นเกิดหมดแรง เจ้าหน้าที่ได้นำสเก็ตบอร์ดลงไปช่วยเหลือและทำการปฐมพยาบาล ก่อนประสานหน่วยกู้ชีพหาดสุรินทร์ได้ช่วยกันทำซีพีอาร์ตลอดทาง และเสียชีวิตในเวลาต่อมาขณะนำส่ง รพ.ถลาง
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. คลื่นลมแรงซัดชายชาวอเมริกันจมหายหาดในหานต่อหน้าลูกเมีย โดยในช่วงบ่ายของวันเกิดเหตุครอบครัวของนายเจมส์ เอเวอร์เรตต์ ดู บอยส์ อายุ 49 ปี คุณพ่อชาวอเมริกาซึ่งมีภรรยาเป็นคนไทยและลูกชายวัย 3 ขวบไปเล่นน้ำที่หาดในหาน ต่อมาโดนกระแสน้ำลากตัวไปในทะเลจากสภาพอากาศคลื่นลมแรง เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาแต่ปาฏิหาริย์ไม่อยู่ข้างครอบครัวของเขา เมื่องาน ปภ.เทศบาลตำบลราไวย์พบร่างของเขาในช่วงค่ำของวันถัดมา
แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส
นอกจากอันตรายจากกระแสน้ำ สัตว์ทะเลที่มากับกระแสนน้ำก็มีความอันตรายเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อช่วงสุดสัปดาห์เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดได้โพสต์เตือนอันตรายในช่วงมรสุม หลังพบแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกสโผล่หน้าหาดต่าง ๆ ในภูเก็ต และต่อมา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้แจ้งเตือนพบแมงกระพรุนหัวขวด อ่าวหลา อ่าวทือ เกาะราชาใหญ่ พบคนเรือบาดเจ็บ 1 หายใจติดขัด
สำหรับแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส เป็นแมงกะพรุนมีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก พบส่วนมากในต่างประเทศ อาจถูกพัดเข้าสู่ทะเลไทยได้ในบางฤดูกาล หากโดนแมงกะพรุนดังกล่าวเข้าไปจะทำให้มีอาการปวดแสบปวดร้อน อาจส่งผลต่อระบบผิวหนัง ระบบประสาทหัวใจและอาจเสียชีวิตได้ หากโดนสัมผัสควรใช้วัสดุแข็งเขี่ยหนวดออกจากร่างกาย ห้ามใช้มือสัมผัสโดยตรงและห้ามนวดหรือทายาใด ๆ ล้างแผลด้วยน้ำทะเล ห้ามใช้น้ำส้มสายชูล้างแผลโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้พิษกระจายเร็วขึ้น ใช้น้ำแข็งประคบเบา ๆ เพื่อลดอาการปวดบวม และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
แมงกระพรุนหัวขวด (Physalia sp.) เป็นแมงกระพรุนพิษร้ายแรง ให้ระวังการสัมผัส หากโดนแมงกะพรุนดังกล่าวเข้าไปจะทำให้มีอาการปวดแสบปวดร้อน อาจส่งผลต่อระบบผิวหนัง ระบบประสาทหัวใจและอาจเสียชีวิตได้ หากโดนสัมผัสควรใช้วัสดุแข็งเขี่ยหนวดออกจากร่างกาย ห้ามใช้มือสัมผัสโดยตรงและห้ามนวดหรือทายาใดๆ ใช้น้ำส้มสายชูราดบริเวณที่สัมผัสอย่างต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่า 30 วินาที และห้ามใช้น้ำจืดในการล้างแผลโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้พิษกระจายเร็วขึ้น และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
รายงานเพิ่มเติม: เอกภพ ทองทับ
