“วันเดียว เที่ยวหรอยภูเก็ต”

ท่องเที่ยว - วันเสาร์-อาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดของใครหลายคน คุณเลือกที่จะทำอะไร? นอนอยู่บ้านพักผ่อน สะสางงานที่ยังคั่งค้าง หรือเลือกที่จะใช้วันหยุดของเราให้สนุกคุ้มค่า อย่ามัวแต่ทำงานจนลืมคนที่เรารัก อย่าปล่อยให้สิ่งที่เราอยากได้ มาทำลายสิ่งที่เรามี เพราะรู้ว่าอนาคตเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่รู้ไหมปัจจุบันสำคัญที่สุด

ข่าวภูเก็ต

วันจันทร์ ที่ 16 เมษายน 2561, เวลา 09:00 น.

สำหรับฉันแล้ว ส่วนใหญ่เลือกที่จะออกไปเที่ยวข้างนอกในวันหยุด แล้วคุณล่ะ เวลาคุณจะไปเที่ยวในแต่ละครั้งจะใช้เวลากันกี่วัน? วันนี้ฉันจะขอเล่าประสบการณ์เที่ยวภูเก็ตแบบเที่ยวจริง ๆ ที่จัดหนักจัดเต็มโดยใช้เวลาเพียงหนึ่งวัน ที่คุณสามารถตะลอนเที่ยวแบบเต็มที่ โดยไม่มีสะดุด

ทริปนี้จะเป็นการขับรถตามถนนสายรอบเกาะฝั่งตะวันตกของภูเก็ต เริ่มจากฝั่งสนามบินซึ่งอยู่ฝั่งตะวันตกทางตอนเหนือของเกาะไปจบที่ตอนใต้สุดของภูเก็ตคือที่ราไวย์ โดยจะมีเวลาหยุดพักเพื่อถ่ายภาพลั้ลลาในแต่ละหาด รวมทั้งหาดที่ฉันจะแนะนำเพื่อน ๆ สำหรับเล่นน้ำทะเล 1 จุด

เอาล่ะ! ก่อนอื่นเราต้องเตรียมใบขับขี่ ชุดว่ายน้ำ แว่นกันแดดให้พร้อม และที่ขาดไม่ได้สำหรับทริปนี้ นั่นก็คือ “คนรู้ใจ” ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ๆ หรือแฟน เพราะจะได้มีเรื่องคุยกันได้ตลอดทาง พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลย

ในเช้าวันที่อากาศสุดแสนแจ่มใส ณ เวลา 9.00 น. ถือว่าไม่เช้ามากจนเกินไป เพราะคุณเพื่อนที่จะร่วมเดินทางไปกับฉันในวันนี้เพิ่งเดินทางมาถึงภูเก็ต และมีเวลาในภูเก็ตเพียงแค่วันเดียว ซึ่งคุณเพื่อนคนนี้ก็เลือกพักโรงแรมแถวสนามบิน และไม่ยอมตื่นเช้าเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น (แอบเสียดาย แต่ไม่เป็นไร เรายังมีเวลาอีกทั้งวัน)

พวกเราออกจากที่พักแวะซื้อขนมร้านสะดวกซื้อเพื่อไปนั่งกินกันที่ริมหาดในยาง ซึ่งอยู่ติดกับสนามบินและไม่ไกลจากที่พัก จุดเด่นของที่นี่คือความร่มรื่นของต้นสนขนาดใหญ่ นั่งดูเครื่องบินร่อนลง และเดินเรียบหาดไปเรื่อย ๆ จนถึงหาดทรายขาว มองเห็นท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพคู่กับเครื่องบิน ถือเป็นอีกหนึ่งอะเมซิ่งภูเก็ต หากคุณอยากจะมาถ่ายภาพตรงจุดนี้ ก็ต้องเผื่อเวลาหน่อย เพราะพวกเรากว่าจะได้รูปคู่สวย ๆ กับเครื่องบิน เวลาก็ปาเข้าไป10โมงกว่าแล้ว

เราเดินทางต่อไปยังหาดในทอน ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูนักท่องเที่ยวมากนัก แต่จะว่าไปก็เป็นอีกหาดเล็ก ๆ ที่สวยงามมากทีเดียว เพื่อนของฉันเป็นคนชอบถ่ายภาพ พวกเราลองเดินไปแถบโขดหินที่อยู่ฝั่งขวามือ (เมื่อหันหน้าเข้าหาทะเล) ก็พบว่ามีมุมเก๋ ๆ ให้ถ่ายภาพด้วย เราอยู่ที่นี่กันสักพัก และขับรถต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงหาดบางเทา เรายืนมองบรรยากาศรอบๆที่นี่หาดที่เงียบสงบอยู่ริมเชิงเขา มีต้นสนทะเลเรียงรายอยู่บริเวณเหนือหาด บริเวณชายหาดเม็ดทรายไม่ละเอียดเท่าไร แต่มีความขาวมาก พื้นที่บางส่วนได้ถูกพัฒนาเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทหรูหราระดับ 5 ดาวหลายแห่ง

จึงเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำชมปะการัง นอกชายฝั่งทางตอนเหนือของอ่าวก็มีปะการังที่สวยงาม จากหาดบางเทาไปยังหาดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหาดที่สีของน้ำทะเลสวยที่สุดแห่งหนึ่งในภูเก็ต เมื่อผิวน้ำกระทบกับแสงแดดจะเห็นได้ว่าน้ำเป็นสีเขียวมรกตใสมาก เราอยู่ที่นี่ไม่นานมากนักก็ขับรถต่อขึ้นไปบนเนิน ไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงยังจุดชมวิวแหลมสิงห์ที่ด้านขวามือจะมีศาลา จากจุดนี้ไม่ต้องเดินให้เหนื่อยค่ะ วิวตรงหน้าสวยมาก เพื่อนของฉันเก็บภาพสวย ๆ ซึ่งหาดที่เห็นอยู่ใกล้ ๆ ก็คือแหลมสิงห์ และยังมีหาดเล็ก ๆ ให้เล่นน้ำได้ด้วย แต่วันนี้พวกเราไม่ได้เดินลงไป มองไปไกล ๆ จะเห็นอ่าวกมลา กับเนินเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของบรรดาโรงแรมต่าง ๆ ขับเลยมาอีกหน่อยจะมีจุดชมวิวกมลา แต่ต้องจอดรถที่ไหล่ทางและใช้ความระมัดระวังอย่างมาก แต่ก็ไม่เกินความสามารถของพวกเราค่ะ

เพลิดเพลินกันพอสมควรจนคุณเพื่อนบอกเริ่มหิว ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยงกว่าแล้ว เราไปกินข้าวกันที่หาดกมลา บริเวณถนนสายหลักซึ่งเป็นเส้นทางที่เราจะใช้เดินทางต่อ มีร้านอาหารเยอะค่ะ เลือกทานได้ตามอัธยาศัย แต่คุณเพื่อนอยากทานแบบวิวสวย ๆ เราจึงขับเลยไปอีก 1 เนินเขาใหญ่ ๆ จะเจอร้านอาหารทำเลดีริมทางถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิว ร้านนี้เป็นร้านส้มตำที่มีอาหารตามสั่งด้วย ทานข้าวเที่ยงไปดูวิวสวย ๆ ของทะเลอันดามันไป รับรองว่าเป็นมื้อที่อร่อยมาก ๆ ราคาก็แทบไม่ต่างจากร้านอาหารทั่วไปในภูเก็ตค่ะ ก็ไม่ถูกนะคะ แต่ไม่แพงเวอร์เหมือนร้านตามชายหาดบางร้าน ส่วนรสชาติถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวค่ะ

อิ่มท้องจากมื้อเที่ยงแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางต่อไปยังหาดที่ชื่อเสียงดังที่สุดของภูเก็ต นั่นคือ หาดป่าตอง แต่ก่อนถึงเราแวะหาดกะหลิม หาดเล็ก ๆ ที่มี 2-3 ช่วงของถนนจะเลียบไปกับชายหาดเลย ณ จุดนี้เราก็สามารถหาทำเลเพื่อแวะถ่ายภาพสวย ๆ ได้ตามชอบใจ เลยไปอีกหน่อยจะมีแนวโขดหินสลับกับหาดเล็ก ๆ ให้ถ่ายภาพอีก 2 จุด ส่วนตัวแล้วฉันชอบที่นี่มาก เพราะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวจะมีเรือสำราญขนาดใหญ่มาลอยลำที่ทะเลใกล้ปากอ่าวป่าตอง สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

พวกเราขับกันต่อจนมาถึงยังหาดป่าตองและแน่นอนว่าเป็นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก เพื่อนของฉันไม่ค่อยชอบสักเท่าไร แต่ถ้าจะเอาบรรยากาศความคับคั่งของนักท่องเที่ยวก็ต้องที่นี่แหละค่ะ โดยเฉพาะฝั่งที่ติดกับกะหลิม อันที่จริงสีสันของป่าตองต้องเป็นตอนกลางคืนถึงจะสนุก ถ้าชอบและอยากสัมผัสล่ะก็ให้กลับมาที่นี่อีกครั้งหลังจากมื้อค่ำ หากคุณเป็นสายปาร์ตี้รับรองว่าจะได้พบกับความตื่นตาตื่นใจที่จะไม่ทำให้ต้องผิดหวังอย่างแน่นอน

แต่วันนี้ฉันมาสาย ทะเล ภูเขา และวิวธรรมชาติ เราเลยขับรถข้ามเขาไปยังหาดไตรตรัง อีกหาดที่ค่อนข้างลับหูลับตาคนและเข้าถึงยากสักหน่อย เนื่องจากพื้นที่ริมหาดถูกจับจองสำหรับสร้างโรงแรมหมดแล้ว การจะไปที่นี่ต้องไปจอดรถไว้ที่สุดหาดแล้วเดินผ่านร้านอาหารลงไปในหาด หรือใช้ถนนทางเข้าตรงศาลพระภูมิโรงแรมไตรตรังบีชก็ได้ จุดเด่นของที่นี่คือต้นไม้ขนาดใหญ่ริมหาดที่ให้ร่มเงาลงไปถึงในทะเล จะว่าไปที่นี่ก็เหมาะกับการเล่นน้ำมากเหมือนกันหากเป็นช่วงน้ำขึ้น เพราะมีหาดทรายขาวน่านั่ง แต่หากเป็นช่วงน้ำลงจะมีโขดปะการังเยอะไปหน่อยไม่เหมาะกับการว่ายน้ำ เรานั่งเล่น ถ่ายรูป พูดคุยกันตามประสา ก่อนที่เราจะขับรถย้อนไปที่หาดป่าตองแล้วใช้ถนนรอบเกาะเดินทางต่อไปยัง หาดกะรน ซึ่งเป็นหาดที่สวยงามและมีความยาวของหาดค่อนข้างมาก แม้ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวจะมีนักท่องเที่ยวเยอะ

แต่ด้วยความที่หาดกะรนมีระยะทางยาวและไม่มีโรงแรมมากั้นระหว่างถนนกับหาด ทำให้หาพื้นที่ในการพักผ่อนได้อย่างสะดวก เป็นหาดหนึ่งที่สามารถเล่นน้ำได้ในช่วงเดือน พ.ย.-เม.ย. แต่ถ้าเป็นช่วงมรสุมก็ไม่ค่อยแนะนำนักเพราะคลื่นลมค่อนข้างแรงเลยทีเดียวและอันตรายมาก ต้องคอยสังเกตสัญลักษณ์ธงสีแดงที่พี่ ๆ ไลฟ์การ์ดติดตั้งเอาไว้บนชายหาดให้ดีด้วย จากกะรนขับรถข้ามเนินเขาเล็ก ๆ ไปถึงหาดกะตะ ซึ่งเป็นหาดที่อยู่ในมุมอับลม สามารถเล่นน้ำได้เช่นกัน หาดนี้พื้นทรายจะค่อนข้างราบเรียบไม่ชันเหมือนหลาย ๆ หาดที่หันหน้าเข้าหาทิศทางลมโดยตรง พวกเราหาที่ว่างริมหาดจอดรถ หาห้องน้ำเปลี่ยนชุดว่ายน้ำ ลงไปเล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุก ทรายที่ขาวสะอาดเหมาะกับการลงไปนอนอาบแดดยิ่งนักเจ้าค่ะ พวกเราเลยใช้เวลาสบาย ๆ แบบชิล ๆ ไปกับที่นี่เยอะหน่อย

จนกระทั่ง 17.00 น. ขับรถต่อไปบนเส้นถนนรอบเกาะ ขึ้นเนินไปไม่ไกลก็จะถึงจุดชมวิวกะตะน้อย ซึ่งจะว่าไปก็เป็นจุดชมวิวแบบไม่เป็นทางการ แต่มีมุมเปิดพอให้ถ่ายภาพที่ระลึกกับหาดกะตะน้อยได้ เราอยู่ที่นี่แป๊บเดียวเพราะไม่อยากจอดรถริมทาง ขับต่อไปอีกไม่ไกลก็คือจุดชมวิว 3 อ่าว ซึ่งมีลานจอดรถและศาลาชมวิว ที่นี่สามารถมองเห็นหาดชื่อดัง 3ของภูเก็ต อันได้แก่ กะตะน้อย กะตะ และกะรน ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในจุดชมวิวที่เป็นที่นิยมของภูเก็ตเลยก็ว่าได้

18.00 น. จากจุดชมวิวขับรถลงเนิน ลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ผ่านชุมชนใสยวน จากนั้นเลี้ยวไปยังเส้นทางสู่หาดในหานซึ่งมีทิวทัศน์สวยงามมาก มีอ่างเก็บน้ำขนาดย่อมอยู่ก่อนถึงหาด ช่วงเย็น ๆ จะเห็นคนมาออกกำลังกายกันเต็มไปหมด หาดในหานเองก็มีสเน่ห์ไม่น้อย เพราะนอกจากทรายที่ขาวเนียนแล้ว ยังมองเห็นกังหันลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินใกล้ ๆ กัน ฉันขับลัดเลาะไปทางขวา จากนั้นใช้ถนนที่ผ่านไปตามไหล่เขา ที่จะเป็นถนนแคบ ๆ ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ และบางจุดอาจสวนกันลำบาก หากเป็นรถมอเตอร์ไซค์ก็ง่ายหน่อย แต่ถ้าเป็นรถยนต์คงต้องหาช่องเบี่ยงหลบกัน ขับไปเรื่อย ๆ จะเริ่มเห็นมุมเปิดที่มีทุ่งหญ้าอยู่บนไหล่เขา มองกลับไปทางในหานจะเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามมาก อีกด้านจะมองเห็นอ่าวเล็ก ๆ ที่ชื่ออ่าวเสน ฉันจึงขอเรียกจุดชมวิวนี้ว่าจุดชมวิวอ่าวเสนแล้วกัน ในช่วงเย็นแสงทองของพระอาทิตย์จะช่วยขับให้ต้นหญ้าที่พริ้วไหวสวยขึ้นอีกเป็นกอง นับเป็นอีกจุดที่เหมาะมากกับการถ่ายภาพบุคคลหรือแม้แต่ถ่ายพรีเวดดิ้งอย่างมาก

จากจุดนี้เราขับรถย้อนไปยังหาดในหาน แล้วใช้ถนนรอบเกาะขับไต่เขาขึ้นไปยัง จุดชมวิวกังหันลม ที่เรามองเห็นตั้งแต่ตอนอยู่ในหาน ที่นี่เป็นมุมเปิด 180 องศา เบื้องหน้าคือทะเลอันดามันอันกว้างใหญ่ ฝั่งซ้ายคืออ่าวยะนุ้ยที่มีลักษณะพิเศษเป็นแหลมเล็ก ๆ อยู่กลางหาดยื่นไปในทะเล ฝั่งขวาคือหาดในหาน ที่สำคัญตรงจุดนี้มีต้นตาล ทุ่งหญ้า อันเป็นองค์ประกอบที่เหมาะมากกับการถ่ายภาพพระอาทิตย์ตก บางวันมีกลุ่มคนที่ชอบกีฬาแนวเอ็กซ์ตรีม มาเล่นพารามอเตอร์ด้วย จุดชมวิวแห่งนี้เป็นจุดที่ดิฉันภูมิใจนำเสนออีกจุดหนึ่ง ยังพอมีเวลาเราจึงรีบขับรถไปยังแหลมพรหมเทพซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ดังที่สุดของภูเก็ต เพื่อมาดูพระอาทิตย์ตกดินสัมผัสแสงสุดท้ายของวันที่นี่ เรื่องความสวยงามรับรองได้ว่าไม่ผิดหวัง

ชมพระอาทิตย์ตกกันแล้ว ขับรถต่อไปอีกหน่อยก็จะถึงหาดราไวย์อันเป็นหาดใต้สุดของเกาะภูเก็ต เป็นที่ที่เราทานมื้อค่ำกัน จะเลือกพวกร้านอาหารริมหาดก็ได้ แต่พวกเราที่จะเลือกซื้อของจากทะเลสด ๆ แล้วให้ทางร้านปรุงให้ ทั้งยังได้สนุกกับการต่อรองราคาอาหารทะเลสด ๆ ด้วย และได้ลิ้มรสเมนูจากหลากหลายร้าน ส่วนราคารวม ๆ แล้วก็จะถูกกว่าไปทานตามร้านที่รองรับนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป แถมของก็สดกว่าอีกด้วย ข้อเสียคือหาที่จอดรถยากสักหน่อย และคนเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นนักท่องเที่ยวที่ได้รับการบอกต่อกันปากต่อปากนั่นแหละค่ะ จุดที่สามารถเลือกซื้อซีฟู้ดสด ๆ จะมีอยู่ใกล้ ๆ สะพานที่หาดราไวย์ เสร็จจากมื้อค่ำก็สามารถขับตรงเข้าเมืองมุ่งหน้ากลับที่พักได้เลย

สำหรับดิฉันวันนี้เป็นการเที่ยวที่สนุก และคุ้มค่ามาก เพียงแค่ได้เห็น ความสุข รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ของคนที่เรารัก และยังมีรูปภาพของความทรงจำดี ๆ ที่เราได้ถ่ายด้วยกัน มันจะเป็นบันทึกแห่งความทรงจำที่ยากจะลบเลือน แค่นี้ก็เกินพอแล้ว

แล้วคุณล่ะ! รู้หรือยังว่าวันหยุดสัปดาห์นี้จะไปเที่ยวกับใคร หวังว่าการเดินทางของเราในครั้งนี้จะช่วยให้คุณวางแผนเที่ยวภูเก็ตได้คุ้มค่ามากขึ้นนะคะ ขอบคุณค่ะ

- นัยนา ศรีทองเทียว 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่