ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “น้องตาล จิบิโก๊ะ” ได้โพสต์ภาพนิ่งพร้อมข้อความระบุว่า“ประสบการณ์โดยตรงที่โรงพยาบาลในจังหวัดภูเก็ต # ลืมผ้าก็อตไว้ในช่องคลอดเป็นเวลา 2 เดือนกว่า ผ้าก๊อซที่ติดในช่องคลอดพึ่งหลุดออกมาวันนี้ โชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ติดเชื้อหรือเป็นหนองอะไร ปวดแสบเจ็บแผลเย็บจนเดินไม่ได้เป็นเวลา 2 เดือนกว่า ฝากถึงคนที่กำลังตั้งครรภ์ ให้คลอดกับโรงพยาบาลที่ดี ๆ ไม่งั้นอาจจะเป็นแบบนี้ก็ได้ เอาเรื่องให้ถึงที่สุด #ขออภัยรูปภาพอาจไม่เหมาะสม” ซึ่งหลังมีการโพสต์ได้มีผู้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์และสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งให้กำลังใจ
จากการสอบถามผู้โพสต์ ได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนได้ไปคลอดบุตรที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต โดยเลือกคลอดเองแทนการผ่าตัด ซึ่งระหว่างคลอดเป็นไปตามปกติทุกอย่าง หลังคลอดเสร็จคุณหมอได้ทำการเย็บแผล ก่อนให้พักฟื้นเป็นเวลา 3 วันที่โรงพยาบาล และอนุญาตให้กับบ้านพร้อมบุตรตามปกติ โดยคุณหมอได้นัดอีกครั้งประมาณ 7 วัน
ซึ่งช่วงที่กลับไปพักที่บ้านก็มีอาการปวดแผลบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเวลาขับถ่าย แต่คิดว่าเป็นอาการปวดตามปกติหลังคลอด และเมื่อครบ 7 วัน จึงไปพบตามนัด พยาบาลได้ทำการตรวจดูบาดแผล โดยไม่ได้ตรวจภายใน ก่อนให้กลับบ้าน และนัดให้มาพบอีกครั้งหลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ระหว่างนั้นจะปวด ๆ หาย ๆ โดยเฉพาะเวลาถ่ายหนักจะมีอาการปวด เมื่อครบ 1 เดือน เมื่อช่วงเดือน ก.ค.ก็มาพบหมอตามนัด โดยได้แจ้งอาการกับหมอไปว่า มีอาการตามข้างต้น แต่หมอไม่ได้มีการตรวจภายในให้ แค่สอบถามอาการ และให้ยากลับไปรับประทาน เธอจึงกลับมาบ้าน และยังคงมีอาการปวดๆหายๆตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีอาการปวดตลอดทั้งวัน จะลุกนั่งยืนเดินก็ปวด เมื่อจับดูพบว่าผิดสังเกตคล้ายมีวัตถุแปลกปลอมอยู่ภายใน จึงไปเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่า ผ้าก๊อซได้หลุดออกมาจากช่องคลอด โดยมีลักษณะเป็นสีดำ มีกลิ่นเหม็น จึงเก็บตัวอย่างผ้าก๊อตดังกล่าวและรีบเดินทางไปพบหมอที่โรงพยาบาล เพื่อตรวจอาการอีกครั้ง ซึ่งหมอได้ทำการตรวจ และระบุว่าไม่มีอะไรตกค้างภายใน พร้อมให้ยาฆ่าเชื้อมากิน”
คุณแม่ลูกอ่อนกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากที่ตรวจเสร็จตนเองจึงนำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์เตือนให้บุคลากรทางการแพทย์เพิ่มความระมัดระวัง พร้อมทั้งต้องการเรียกร้องให้โรงพยาบาลออกมารับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
ล่าสุดหลังมีการโพสต์ข้องความดังกล่าวได้รับการประสานจากทางโรงพยาบาล เพื่อพูดคุยกับผู้บริหารโรงพยาบาลดังกล่าวแล้ว ซึ่งผู้บริหารได้ให้เขียนหนังสือร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษรตามลำดับขั้นตอน และรับปากจะดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนอย่างเป็นธรรม ก่อนจะแจ้งผลการดำเนินการให้ทราบในภายหลัง ซึ่งคาดว่าอาจจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน
ทั้งนี้ เมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ (29 ส.ค.) เจ้าตัวได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สภ.ถลาง เอาไว้แล้ว