เสิร์ฟรับปีใหม่ ทำผิดกฎหมายโฆษณาโทษคุก 1 ปี ปรับ 5 แสน

ภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ต เอาจริงเรื่องป้ายโฆษณาและกระเช้าของขวัญปีใหม่ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือเจ้าของสถานประกอบการในจังหวัดภูเก็ตและประชาชนให้คำนึงถึงผลกระทบความรุนแรงจากการบริโภคแอลกอฮอล์ เช่น อุบัติเหตุทางจราจร การทะเลาะวิวาท อาชญากรรม และอื่นๆ

ข่าวภูเก็ต

วันเสาร์ ที่ 30 ธันวาคม 2560, เวลา 09:00 น.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต (สสจ.ภูเก็ต) ได้ส่งจดหมายแจ้งเตือนเกี่ยวกับการบังคับใช้บทลงโทษและลงพื้นที่กวดขันการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวดในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 นี้ 

โดยในจดหมายได้เน้นย้ำถึง การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง สวนสาธารณะของทางราชการ ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยการ ลด แจก แถม หรือแลกเปลี่ยน ห้ามขายแก่บุคคลที่อายุต่อกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และห้ามทางร้านจัดกระเช้าสำเร็จรูปที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

หากผู้ใดฝ่าฝืน จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และมาตรา 32 ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท และโทษปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 5 หมื่นบาท

ดร.ประภา นัครา หัวหน้างานโรคไม่ติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การรณรงค์และบทลงโทษที่ได้มีการดำเนินการอย่างเข้มงวดนั้น จะเน้นหนักไปที่ผู้ประกอบการและให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ลานเบียร์ ร้านอาหาร และตามสถานที่สาธารณะต่างๆ 

“เราได้มีการประชาสัมพันธ์อย่างเข้มข้นในห้วงระหว่างวันที่ 24 – 29 ธันวาคม” ดร.ประภา ผู้ดำเนินการงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในจังหวัดภูเก็ต กล่าว

“จังหวัดภูเก็ตนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เราจึงได้ส่งจดหมายแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการ เพื่อขอความร่วมมือในการดำเนินการตามพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ก่อนช่วงเทศกาลการเฉลิมฉลองปีใหม่ ที่กำลังจะมาถึง”

“เมื่อเดือนที่ผ่านมา เราได้พบว่ามีร้านอาหารอยู่หลายร้านที่กระทำผิดกฎหมายและเจ้าของร้านก็ยอมรับว่ากระทำผิดจริงและยอมปลดป้ายโฆษณาที่ผิดกฎหมายออกไป” ดร.ประภา กล่าวเพิ่มเติม แต่ไม่ขอระบุชื่อร้านเหล่านั้น

“เราจำเป็นต้องแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบการถึงรณรงค์นี้ ที่ออกเป็นประกาศใช้ทั่วประเทศ โดยจะมีผลต่อร้านอาหารทุกร้าน บาร์ทุกแห่ง” ดร.ประภา กล่าว

เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินหน้าคุมเข้มสื่อออนไลน์โฆษณาแฝงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินคดีกับเหล่าคนดัง ที่โพสต์ภาพคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เข้าข่ายฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 32 ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 5 แสน จำคุก 1 ปี รวมไปถึงกรณีการกระทำความผิดที่คล้ายคลึงกันอื่นๆ ด้วย

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. เวลา 19.00 – 21.00 น. ทีมปฎิบัติการตรวจเตือนเฝ้าระวังตาม พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 และพรบ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 โดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 (สคร.11) ร่วมกับหน่วยงานในจังหวัดภูเก็ตที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สสจ.ภูเก็ต, สรรพสามิตพื้นที่ภูเก็ตและสภ.เมืองภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบและประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจตามข้อกฎหมาย ครอบคลุมการโฆษณา ห้ามแสดงป้ายสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการจำหน่ายแอลกอฮอล์ให้ถูกต้องตามข้อกฎหมาย ในร้านค้าที่ให้บริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณตลาดนัดชิลล์วา พื้นที่สามกอง ก่อนทำการตรวจสอบตามเป้าหมายอื่นๆ ต่อไป

น.ส. ณัฐพิมล ณ นคร เจ้าหน้าที่ชำนาญการ จาก สคร.11 จ.นครศรีธรรมราช (ดูแล 7 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้งภูเก็ต) ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจในห้วงการรณรงค์ช่วงปีใหม่ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ดำเนินการแนะนำและขอความร่วมมือร้านดังกล่าวไม่ให้มีป้ายโฆษณาหรือสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ให้มีป้ายการจัดโปรโมชั่นชักจูงใจให้บริโภค

โดยการชี้แจง และมอบแผ่นพับความรู้ ตามข้อกฎหมายและเวลาจำหน่ายให้กับร้านค้า ทั้งนี้ได้ให้คำแนะนำ และทำความเข้าใจการปฏิบัติในส่วนของร้านอาหารปลอดบุหรี่ ให้ถูกต้องตามข้อกฎหมาย โดยการดำเนินการดังกล่าว ผู้ประกอบการร้านค้า ได้รับทราบข้อมูล และให้ความร่วมมือกับการปฏิบัติให้ถูกต้องดังกล่าวด้วยดี “เราได้ทำการสุ่มสำรวจร้านค้าจำนวน 7 ร้าน พบว่าร้านส่วนใหญ่ มีป้ายโฆษณา แสดงสัญลักษณ์เครื่องดื่มยี่ห้อต่างๆ อย่างชัดเจน มีป้ายการจัดโปรโมชั่นชักจูงใจให้บริโภค และไม่มีป้ายแสดงเขตปลอดบุหรี่” น.ส.ณัฐพิมล กล่าว โดยข้อมูลทั้งหมดที่เก็บได้จะทำการรวบรวมเพื่อส่งให้กระทรวงสาธารณสุขต่อไป

ดร.ประภา ที่เข้าร่วมกับทีมปฏิบัติงานชุดนี้ ได้กล่าวเสริมอีกว่า “การรณรงค์ในครั้งนี้หมายรวมถึงพนักงานต้อนรับภายในร้าน รูปภาพ สื่อสิ่งพิมพ์ ที่โปรโมทงานอีเวนท์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะพิจารณาเป็นแต่ละกรณีไป หากพบว่ามีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะถือว่าเข้าข่ายความผิด มาตรา 32”  

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าหลังจากวันที่ 29 เป็นต้นไป ก็ยังจะกวดขันกันต่อไป

พร้อมระบุว่า ผู้ใดพบเห็นหรือสงสัยว่ามีการทำเข้าข่ายการโฆษณาที่ขัดต่อกฎหมาย สามารถส่งรูปภาพหรือติดต่อไปที่ สสจ.ภูเก็ต อีเมล info@pkto.moph.go.th หรือโทร 076-212297 เพื่อทางเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบต่อไป

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่