นายสุชาติ ศิลปชัย ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยกับ The Phuket News ว่าการก่อสร้างเรือนจำแห่งใหม่ดำเนินไปแล้วกว่าร้อยละ 98 คงเหลือเพียงการเก็บความเรียบร้อยของระบบไฟฟ้าภายในและระบบรักษาความปลอดภัย โดยคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ภายหลังจากการก่อสร้างมีความล่าช้า และกำหนดการเสร็จสิ้นถูกเลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับเหตุผลที่การก่อสร้างล่าช้าในครั้งนี้ (ซึ่งเดิมคาดหมายว่าจะแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา )นายสุชาติระบุว่า เกิดจากปัญหาทางด้านสภาพอากาศในช่วงฤดูฝน และสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์เต็ม 100% จะมีการเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังบางส่วนไปยังเรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่เพื่อทำการทดสอบระบบความปลอดภัยและอื่น ๆ เป็นระยะเวลา 4 เดือน โดยตั้งเป้าว่าจะมีการเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังที่เหลือในเดือนมกราคม 2564 จากเรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งเดิมในพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งก่อตั้งมาร้อยกว่าปีแล้ว ทั้งยังมีความแออัดด้วยจำนวนนักโทษเกินกว่าขีดจำกัดที่เรือนจำสามารถรับได้หลายเท่าตัว อย่างไรก็ตามในการเคลื่อนย้ายนักโทษจะต้องดำเนินการโดยรัดกุม และต้องวางแผนอย่างรอบคอบร่วมกับทางเรือนจำส่วนกลาง เนื่องจากมีผู้ต้องขังเป็นจำนวนมาก
โครงการเรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าเรือนจำบางโจนั้น ออกแบบโดยกรมราชทัณฑ์ให้มีมาตรฐานตามแบบของกรมฯ เพื่อทดแทนเรือนจำจังหวัดภูเก็ตเดิม ที่มีอายุการใช้งานกว่า 120 ปี และเพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดของผู้ต้องขัง ทั้งหญิงและชายที่มีมากกว่า 3 เท่าตัวของความจุที่เรือนจำแห่งนี้สามารถรองรับได้ จากข้อมูล ณวันที่ 25 สิงหาคม 2563 (ข่าวภูเก็ตส่งพิมพ์) เรือนจำจังหวัดภูเก็ตมีผู้ต้องขังจำนวนทั้งสิ้นกว่า 2,853 คน โดยแบ่งออกเป็นผู้ต้องขังหญิง 526 คน และชาย 2,327 คน ภายในเรือนจำที่ถูกสร้างมาเพื่อรองรับผู้ถูกคุมขังเพียง 700 คน ทั้งนี้ยังไม่รวมผู้ต้องขังชั้นดีจำนวน 56 คนที่ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่แล้ว
นายสมคิด คำมั่ง อดีตผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต เมื่อเดือนมกราคม 2561 ว่าเรือนจำแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 42 ไร่ บ้านพักของเจ้าหน้าที่และส่วนต่าง ๆของโครงการรวมตั้งบนพื้นที่ 100 กว่าไร่ ออกแบบโดยกรมราชทัณฑ์เพื่อรองรับผู้ต้องขังที่ถูกพิพากษาจำคุกไม่เกิน 15 ปี ใช้งบประมาณการก่อสร้าง 789 ล้านบาท เริ่มสัญญาตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. 58 และมีกำหนดระยะเวลาในการก่อสร้าง 1,080 วัน
ทั้งนี้แผนการบริหารและความคืบหน้าของการก่อสร้างเรือนจำแห่งนี้ได้เกิดความล่าช้าตั้งแต่เริ่มสัญญา เพราะมีการส่งมอบพื้นที่จากกรมราชทัณฑ์ช้ากว่ากำหนด เนื่องจากความจำเป็นในด้านการจัดการพื้นที่ให้พร้อมก่อนส่งมอบ ส่งผลให้ผู้รับเหมาเริ่มงานได้ช้ากว่ากำหนด นอกจากนั้นที่ผ่านมาผู้รับเหมาได้ประสบปัญหาหลายอย่างขณะก่อสร้าง เช่น มรสุม ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน จึงทำให้โครงการล่าช้าออกไปอีก
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดนายสุชาติ เปิดเผยว่า โครงการเรือนจังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่นี้จะมีพื้นที่ภายในห้องคุมขังที่สะดวกสบายกว่าเรือนนอนในเรือนจำแห่งเดิม โดยจะมีห้องสำหรับนอนจำนวน 180 ห้อง แต่ละห้องจะมีผู้ต้องขังอยู่ประมาณ 25-30 คน ซึ่งจะมีขนาดแตกต่างกันออกไปตามโครงสร้างของตึก โดยมีการแยกตึกของผู้ต้องขังหญิงออกจากตึกของผู้ต้องขังชาย
ทั้งนี้เรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่ซึ่งเดิมถูกกำหนดให้ใช้รองรับผู้ต้องขังมีโทษเกิน 15 ปีอาจปรับใช้เพื่อกักขังนักโทษที่ถูกพิพากษาจำคุกสูงสุด 30 ปี ในส่วนนี้ต้องรอคำตอบที่ชัดเจนจากทางส่วนกลางอีกครั้งหนึ่ง
