เมซีส์ จ่อลดคนหมื่นอัตรา หลังอี-คอมเมิร์ซรุกแย่งลูกค้า

ทั้งนี้ การปิดห้างสาขาดังกล่าวจะส่งผลให้ตำแหน่งฝ่ายขายลดลง 3,900 อัตรา ขณะที่แผนปรับโครงสร้างธุรกิจจะส่งผลให้ตำแหน่งงานหายไปราว 6,200 อัตรา เมซีส์ยังเปิดเผยว่า บริษัทอาจปิดสาขาเพิ่มอีกราว 30 แห่ง ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเมื่อหมดสัญญาเช่า โดยการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยลดรายจ่ายของบริษัทได้ถึง 550 ล้านเหรียญสหรัฐ/ปี (ราว 1.9 หมื่นล้านบาท) นับตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งทำให้เมซีส์มีเงินลงทุนขยายหน่วยธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของบริษัทเพิ่ม 250 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 8,940 ล้านบาท)

เทอร์รี่ ลันด์เกรน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเมซีส์ กล่าวว่า ยอดซื้อสินค้าในห้างค้าปลีกของบริษัทปรับลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่หน่วยธุรกิจส่วนใหญ่ของบริษัทยังดำเนินการไปได้ดีอยู่ โดยเป้าหมายหลักของเมซีส์คือการเพิ่มผลประกอบการให้แข็งแกร่ง และเตรียมลงทุนด้านดิจิทัลมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ เมซีส์และโคห์ลส์ ห้างค้าปลีกสหรัฐรายใหญ่อีกราย ประกาศปรับลดคาดการณ์ผลกำไรประจำปีงบการเงิน 2016 ที่สิ้นสุดวันที่ 30 ม.ค. หลังยอดขายช่วงเทศกาลวันหยุดที่ผ่านมาปรับตัวลดลง โดยเมซีส์ลดคาดการณ์ผลกำไรลงเหลือ 2.95-3.10 เหรียญสหรัฐ/หุ้น จาก 3.15-3.40 เหรียญสหรัฐ/หุ้น ด้านโคห์ลส์ลดคาดการณ์ผลกำไรดังกล่าวในช่วงเดียวกันลงเหลือ 3.60-3.65 เหรียญสหรัฐ/หุ้น จากเดิมที่ 3.80-4.00 เหรียญสหรัฐ/หุ้น หลังยอดขายทั้งหมดของบริษัทในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ปรับลง 2.7%

ทั้งนี้ ห้างค้าปลีกหลายแห่งกำลังเผชิญการแข่งขันอย่างหนักจากธุรกิจอี-คอมเมิร์ซและร้านขายสินค้าลดราคา โดยก่อนหน้านี้ ห้างค้าปลีกสามารถทำยอดขายได้มากในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. เนื่องจากผู้บริโภคจะนิยมซื้อสินค้าจำนวนมากสำหรับวันขอบคุณพระเจ้าและวันคริสต์มาส

ทิศทางธุรกิจที่อ่อนแรงดังกล่าวของห้างค้าปลีกสวนทางกับ อเมซอน อี-คอมเมิร์ซรายใหญ่สัญชาติสหรัฐ ที่เปิดเผยว่ายอดส่งสินค้าช่วงเทศกาลวันหยุดที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น 50% จากปีก่อนหน้านี้ และคิดเป็น 2 เท่าของยอดส่งสินค้าทั้งหมดในปี 2016