อย่าลืม พรุ่งนี้เริ่มลงทะเบียนโครงการเราชนะ

คลังแจงคนละครึ่งยืนยันตัวตนช้า อยากเข้าโครงการเราชนะให้มาลงทะเบียนตั้งแต่ 29 ม.ค.-12 ก.พ. นี้

โพสต์ทูเดย์

วันพฤหัสบดี ที่ 28 มกราคม 2564, เวลา 10:47 น.

ลงทะเบียนโครงการเราชนะ

ลงทะเบียนโครงการเราชนะ

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน เศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่งซึ่งเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com โดยประชาชนที่ลงทะเบียนสำเร็จจะได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว ต้องยืนยันตัวตนให้สำเร็จก่อนจึงจะสามารถเริ่มใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้

โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่าขอให้ผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเร่งยืนยันตัวตนและใช้จ่ายครั้งแรกโดยเร็วภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ

นอกจากนี้ หากท่านยืนยันตัวตนสำเร็จได้ทันภายในวันที่ 27 มกราคม 2564 ข้อมูลของท่านจะถูกนำไปคัดกรองและตรวจสอบเพื่อพิจารณาสิทธิในการเข้าร่วมโครงการเราชนะโดยอัตโนมัติ และถือว่าท่านเป็นผู้ที่ไม่ต้องลงทะเบียนในโครงการเราชนะอีก เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้ที่มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ที่ได้ให้ความยินยอมให้นำข้อมูลไปประมวลผลหรือเปิดเผยเพื่อดำเนินมาตรการอื่นๆ ของรัฐได้อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่ทัน 27 มกราคม 2564 หากต้องเข้าโครงการเราชนะ ต้องไปลงทะเบียนเข้าโครงการผ่าน www.เราชนะ.com ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม-12 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. และเริ่มตรวจสอบสิทธิใน www.เราชนะ.com ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป หากพิจารณาผ่านเกณฑ์ ก็จะได้วงเงินโครงการชนะ 3,500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน ในเดือน กุมภาพันธ์ และ มีนาคม 2564 โดยจ่ายเงินเป็นรายสัปดาห์ เข้าสัปดาห์แรกวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564

"มีคนที่อยู่ในโครงการคนละครึ่งที่ยืนยันตัวไม่ทัน 27 มกราคม ประมาณ 3-4 แสนคน ซึ่งหากเข้าอยากเข้าโครงการเราชนะ ต้องไปลงทะเบียนผ่าน www.เราชนะ.com ในวันพรุ่งนี้ แต่กลุ่มนี้ยังไม่เสียสิทธิโครงการคนละครึ่งได้วงเงิน 3,500 บาท หากยืนยันตัวตนและเริ่มใช้วงเงินภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นี้" นางสาวกุลยา กล่าว

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดของโครงการคนละครึ่ง ณ วันที่ 26 มกราคม 2564 เวลา 21.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1 ล้านร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 14,010,944 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 72,811 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 37,247 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 35,564 ล้านบาท โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สงขลา เชียงใหม่ และสมุทรปราการ ตามลำดับ

อ่านโพสต์ทูเดย์ คลิก

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่