เซซิลา คอร์นู อายุ 31 ปี เดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และถูกตำรวจ สภ.กะรนจับกุมในข้อหาครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ในระหว่างนั่งรถจักรยานยนต์กับคู่หมั้นของเธอ โดยมีพ่อแม่และน้องชายของเธอขับตามมา เธออ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย สั่งให้หยุดรถเพื่อตรวจและพบว่าเธอมีของกลางบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมกับเรียกร้องค่าปรับจำนวน 40,000 บาท แต่เธอปฏิเสธที่จะจ่าย
เซซิลา เล่าต่อว่าเธอถูกจับกุมและนำตัวไปยังสภ.กะรน ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามข่มขู่ให้เธอจ่ายเงินสินบน จากนั้นเธอถูกตั้งข้อหา พาสปอร์ตถูกยึด และนัดหมายพิจารณาคดีในวันที่ 11 ก.พ. ซึ่งเธอมีกำหนดเดินทางกลับในวันถัดมา เธอจ่ายเงินจำนวน 1 แสนบาทเป็นค่าประกันตัวและถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา
วันที่ 11 ก.พ. เซซิลา เดินทางไปยังศาลจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเธอถูกตัดสินว่ากระทำความผิดจริง และศาลสั่งปรับเป็นเงินจำนวน 827 บาท ก่อนจะถูกส่งตัวไปยังตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต โดยเธอเองคิดว่าเพื่อไปรับคืนพาสปอร์ต แต่เมื่อไปถึงตม.เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าเธอจะต้องถูกส่งตัวไปยังกรุงเทพฯ เพื่อส่งตัวกลับประเทศตามขั้นตอน
จากนั้นเธอถูกส่งตัวไปยังกรุงเทพฯ ซึ่งเธออ้างว่าเธอโดนขังคุกเป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ร่วมกับผู้หญิงคนอื่น ๆ อีกกว่า 60คน โดยเธอกล่าวว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายมาก เธอต้องนอนบนพื้นสกปรกและแข็ง โดยไร้ซึ่งผ้าปูหรือเบาะรองนอนใด ๆ ก่อนที่เธอจะถูกส่งกลับยังประเทศฝรั่งเศส โดยเธออ้างว่าเธอใช้เงินไปประมาณ 8,000 ยูโร หรือประมาณ 286,000 บาท ในการดำเนินการทางกฎหมายและค่าเดินทาง
ล่าสุดวานนี้ (27 ก.พ.) ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะรน ก็ได้พูดถึงกรณีที่มีนักท่องเที่ยวสาวชาวฝรั่งเศสกล่าวอ้างดังกล่าว
“เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน จับกุมนางสาวเซซิลา คอร์นู หลังจากพบเห็นว่าเธอใช้บุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ต.กะรน เมื่อวันที่ 30 ม.ค.” พ.ต.อ.ประสาร หาญโกธา ผกก.สภ.กะรน กล่าวกับ The Phuket News “หลังจากนั่งรอที่โรงพักเป็นเวลาหลายชั่วโมงพร้อมกับทนายความเธอก็ได้ขอประกันตัว และได้รับอนุญาตให้ประกันตัวไปด้วยเงินจำนวน 1 แสนบาท ในวันเดียวกัน โดยไม่ได้มีการควบคุมตัวเธอไว้ในห้องขังแต่อย่างใด”
พ.ต.อ.ประสาร อธิบายเพิ่มเติมว่า เงินประกันถูกคืนให้กับเธอเต็มจำนวนในภายหลัง “ทางเรามีเอกสารยืนยัน” ผกก.กล่าว
“ผู้ต้องหาถูกศาลสั่งให้เสียค่าปรับเมื่อวันที่ 11 ก.พ. แต่ทางเราไม่ทราบว่าศาลสั่งปรับเป็นจำนวนเงินเท่าไร เพราะทางเรายังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้” พ.ต.อ.ประสาร กล่าว พร้อมทั้งปฏิเสธคำกล่าวหาของนางสาวเซซิลา ในเรื่องที่มีเจ้าหน้าที่ข่มขู่เอาเงินสินบนจำนวน 4 หมื่นบาทจากเธอ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกะรนไม่ทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน
“เราจำเป็นต้องยึดพาสปอร์ตของเธอเอาไว้ตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อเป็นการป้องกันการหนีออกนอกประเทศ ก่อนจะมีการพิจารณาของศาล จากนั้นก็ได้ส่งพาสปอร์ตต่อไปยัง ตม.ภูเก็ตในวันที่ 11 ก.พ. ตามขั้นตอนการส่งตัวกลับประเทศผ่านทางกรุงเทพฯ”
ส่วนคำกล่าวอ้างของนางสาวเซซิลาในเรื่องค่าใช้จ่ายจำนวน 8 พันยูโร พ.ต.อ.ประสาร กล่าวว่า ทางตำรวจกะรนไม่ทราบในเรื่องดังกล่าว ทราบเพียงว่าเธอจ่ายค่าปรับที่ศาลจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น
ด้าน พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต อธิบายว่า ขั้นตอนการส่งตัวชาวต่างชาติกลับประเทศผ่านไปยังกรุงเทพฯ จะใช้เวลาประมาณ 3-4 วันเป็นปกติ และชาวต่างชาติจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทางหรือค่าใช้จ่ายประจำวันต่าง ๆ
เมื่อถามถึงข้อร้องเรียนของนางสาวเซซิลา ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต ระบุว่าไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน
