นายวิวัธน์ ชิดเชิดวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (3พ.ย.) ว่า เวลา 16.00 น. ได้รับแจ้งจากท่าเรือว่ามีเรือเอ็มเจย์ หมายเลขทะเบียน 505151738 เกิดไฟไหม้ ระหว่างเกาะงำกับเกาะปายู ตำบลป่าคลอก ในระหว่างเกิดเหตุ มีเรือยอช์ท ชื่อเพลมอร์ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงเห็นเหตุการณ์ได้เข้าให้การช่วยเหลือผู้โดยสารไว้ได้ทั้งหมด 9 คน และนำขึ้นบริเวณท่าเรือยอช์ทเฮเว่น (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด โดยนักท่องเที่ยวทั้งหมดทางบริษัทประกันฯ อีลิท ยอช์ทติ้ง ได้นำไปพักที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา ส่วนเรือได้รับความเสียหายไฟไหม้ทั้งลำ และจมน้ำลงในบริเวณที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ พบว่าเกิดจากภัยธรรมชาติ ฝนตกหนักฟ้าผ่าที่เรือทำให้เกิดไฟไหม้เสียหายและจมลงสู่ท้องทะเลดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการทางคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องและศาลมีคำสั่งพิพากษา นายเดวิด สติวาร์ท ทอย ชาวสก็อตแลนด์ เป็นกัปตันเรือ และนายไมกี้ บาร์เคอร์ (ชาวไทย) ผู้ดูแลเรือ ซึ่งเป็นจำเลยให้มีความผิดตามฟ้องทั้งนี้จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาจึงมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 จึงพิพากษาลงโทษ จำเลยที่ 1นายเดวิด ฐานเป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีใบรับรองความสามารถ รับโทษจำคุก 3 เดือน ปรับเป็นเงิน 3,000 บาท และจำเลยที่ 2 นายไมกี้ ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ใช้เรือผิดเงื่อนไขในใบอนุญาต รับโทษจำคุก 2 เดือนปรับเป็นเงิน 2,000 บาท โดยโทษจำคุก ของจำเลยทั้งสองให้รอการลงโทษมีกำหนด 1 ปีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56
นายภัคพงศ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจังหวัดจะให้ความสำคัญกับการจัดทำแผนกู้ชีพกู้ภัยและแผนเผชิญเหตุ เพื่อให้การเข้าถึงการช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวเมื่อเกิดเหตุโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะเรื่องพิกัดของการเกิดอุบัติเหตุในทะเลอันดามัน เมื่อเกิดเหตุจะได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือและกู้ชีพกู้ภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด พร้อมกันนี้ระบบการจัดการประเด็นข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำมาเสนอเป็นข่าวสารจะต้องเป็นไปอย่างรวดเร็วครบถ้วนถูกต้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดภูเก็ต
ด้านนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เพื่อให้การเผชิญเหตุในภาวะวิกฤติเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทางจังหวัดจะจัดทำเครือข่ายอาสาแจ้งข่าวและเครือข่ายภาคเอกชน ที่มีความพร้อมในการกู้ชีพกู้ภัย มาร่วมบูรณาการเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้การกู้ชีพกู้ภัยให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ตามกรอบแนวทางของแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ
- สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต