ศาลฎีกาตัดสินคุก 50 ปี อดีตผู้ว่า ททท. คดีเรียกรับสินบนจัดเทศกาลภาพยนตร์

จบแล้ว! คดีเรียกรับสินบนจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ กทม. ปี 45 ’ศาลฎีกา’ พิพากษายืนจำคุก ’จุฑามาศ ศิริวรรณ’ อดีตผู้ว่า ททท. ส่วนลูกสาวเจอคุก 40 ปี

โพสต์ทูเดย์

วันจันทร์ ที่ 16 พฤศจิกายน 2563, เวลา 15:48 น.

ศาลฎีกาตัดสินคุก 50 ปี

ศาลฎีกาตัดสินคุก 50 ปี

ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี วันที่ 16 พ.ย.63 ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีสินบนข้ามชาติ หมายเลขดำ อท.14/2558 , อท.46/2559 ที่ อัยการคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง "นางจุฑามาศ ศิริวรรณ" อายุ 73 ปี อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ น.ส.จิตติโสภา ศิริวรรณ อายุ 46 ปี บุตรสาว เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานเป็นพนักงาน เรียก รับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อการกระทำอย่างใดในหน้าที่ ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหาย หรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ กระทำการใดๆ โดยมุ่งหมายไม่ให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อเอื้อแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิตามสัญญาแก่หน่วยของรัฐ และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด

ตาม พ.รบ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6 , 11 และพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนรอราคาหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ.2542 มาตรา 12 จากกรณีรับเงินตอบแทน สามี-ภรรยาชาวสหรัฐอเมริกา นักธุรกิจภาพยนตร์ เพื่อให้ได้สิทธิในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ปี 2002 - 2007 (หรือปี พ.ศ.2545 – 2550) มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท

อัยการ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 25 ส.ค.58 ที่ผ่านมา ซึ่งจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 มี.ค.60 เห็นว่า การจัดจ้างโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ มีการกำหนดเงื่อนไขโดยวิธีตกลงราคาหรือวิธีพิเศษ ไม่เหมาะสม ไม่เป็นไปตามข้อบังคับของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2538 โดยเฉพาะโครงการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ปี 2546 ไม่เป็นการจ้างบริษัทที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ที่เคยทราบหรือเคยเห็นความสามารถผลงานมาแล้ว โดยนางจุฑามาศ จำเลยที่ 1 คบคิดกับนายเจอรัลด์ และนางแพทริเซีย กรีน นักธุรกิจในสหรัฐฯ จัดตั้งบริษัทเข้ามาเป็นคู่สัญญากับ ททท. และยังเรียกรับเงินสินบนจากนายเจอรัลด์ โดยโอนเงินไปยัง น.ส.จิตติโสภา จำเลยที่ 2 กับเพื่อน 59 รายการเป็นเงิน 1,822,294 เหรียญสหรัฐ

พฤติการณ์ของ นางจุฑามาศ จำเลยที่ 1 จึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ.2542 มาตรา 12 และผิดฐานเรียกรับทรัพย์สินฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6 ,12 ให้จำคุก "นางจุฑามาศ" จำเลยที่ 1 รวม 11 กระทงๆ ละ 6 ปี เป็นจำคุกทั้งสิ้น 66 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงตามกฎหมายแล้ว ให้จำคุกสูงสุดเป็นเวลา 50 ปี

และจำคุก น.ส.จิตติโสภา บุตรสาว จำเลยที่ 2 รวม 11 กระทงๆ ละ 4 ปี จำคุกทั้งสิ้น 44 ปี ขณะที่ศาลมีคำสั่งให้ริบเงินกระทำผิด 1,822,494 เหรียญสหรัฐ และดอกผลที่เกิดขึ้นให้ตกเป็นของแผ่นดินด้วย โดยเงินนั้นเป็นทรัพย์ที่ฝากอยู่ในธนาคารต่างประเทศ ศาลจึงได้กำหนดมูลค่าทรัพย์ที่สั่งริบนั้น เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 62,724,776 บาท ตามพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 33 วรรคหนึ่ง

จำเลยทั้งสอง ยื่นอุทธรณ์ ต่อมาวันที่ 8 พ.ค.62 มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งศาลพิพากษาลงโทษอดีตผู้ว่า ททท. จำเลยที่ 1 โดยยืนตามศาลชั้นต้นโทษจำคุก 50 ปี

ส่วน น.ส.จิตติโสภา บุตรสาว จำเลยที่ 2 ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้โทษจำคุกเหลือ 10 กระทงเป็นเวลารวม 40 ปี และศาลอุทธรณ์ พิพากษายกคำตัดสินของศาลชั้นต้นที่ให้ริบเงิน 1,822,494 เหรียญสหรัฐ เนื่องจากเป็นการวินิจฉัยเกินคำขอ เพราะคดีนี้อัยการโจทก์ไม่ได้มีคำขอให้ริบของกลางหรือเงินใดๆ ไว้ท้ายฟ้อง และบทเฉพาะกาลตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 52 บัญญัติ ให้บรรดาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบที่ได้ยื่นฟ้องไว้ก่อนวันที่ พ.ร.บ.ดังกล่าวใช้บังคับนั้น ให้บังคับตามกฎหมายซึ่งใช้อยู่ก่อน ดังนั้นคดีนี้จึงต้องใช้บทบัญญัติกฎหมายคดีอาญาสามัญ คำสั่งของศาลชั้นต้นที่นำมาตรการริบทรัพย์สินในคดีทุจริตไม่ว่าโจทก์จะมีคำขอหรือไม่ก็ตาม ตามมาตรา 31(2) , มาตรา 32(2) และมาตรา 33 วรรคหนึ่งนั้นมาใช้กับคดีนี้ เป็นการพิพากษาเกินคำขอท้ายฟ้องของโจทก์

โดยจำเลยทั้งสอง ได้ใช้สิทธิยื่นฎีกา ซึ่งตลอดการพิจารณาคดีนับตั้งแต่ศาลชั้นต้น นางจุฑามาศ อดีตผู้ว่า ททท. และน.ส.จิตติโสภา บุตรสาว จำเลยที่ 1-2 ถูกคุมขังอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัว

ขณะที่ศาลฎีกา ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว มีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ที่ให้จำคุกนางจุฑามาศ อดีตผู้ว่า ททท. จำนวน 11 กระทง รวมเวลาทั้งสิ้น 50 ปี ส่วน น.ส.จิตติโสภา ให้จำคุก 10 กระทง รวมเวลา 40 ปี

อ่านโพสต์ทูเดย์ คลิก

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่