ศบค.เคาะเลิกเคอร์ฟิว 15 มิ.ย.ไฟเขียวคลายล็อกเฟส 4 อนุทินหนุนเปิดสนามบินภูเก็ต

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 หรือ ศบค. แถลงว่า ที่ประชุม ศบค. มีมติเห็นชอบคลายการผ่อนคลายมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระยะที่ 4 ให้ ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหะสถานหรือ เคอร์ฟิว โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. นี้ เป็นต้นไป แต่ยังคงคุมการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ทั้งทางบก น้ำ อากาศ โพสต์ทูเดย์รายงาน

โพสต์ทูเดย์

วันศุกร์ ที่ 12 มิถุนายน 2563, เวลา 13:21 น.

ภาพ ปกครองจังหวัดภูเก็ต

ภาพ ปกครองจังหวัดภูเก็ต

สำหรับที่นั่งบนเครื่องบินไม่ต้องเว้นระยะแต่ต้องใส่หน้ากากฯตลอดเวลา ด้าน รมว.สาธารณสุข ร่วมถก ศบค.ชุดใหญ่ พร้อมชงจับคู่บินข้ามประเทศหลังสถานการณ์โควิดดีขึ้น ประเดิมให้นักธุรกิจก่อน เห็นด้วยให้เปิดสนามบินภูเก็ตตามข้อเรียกร้อง

โดยที่ประชุมเห็นชอบมาตรการต่าง ๆ เพื่อคลายล็อก ระยะที่ 4 ใน 3 กลุ่มกิจการ/ กิจกรรม ประเภทกลุ่มสีแดง ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สูง คือ การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการ หน่วยงานในกำกับของรัฐ, กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต และ กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ หรือสันทนาการ

ทั้งนี้ อนุญาตให้ร้านอาหารขายเหล้า เบียร์ และนั่งดื่มในร้านได้ รวมถึงจัดคอนเสิร์ตได้ โดยให้มีมาตรการเว้นระยะห่าง 5 ตารางเมตร/คน ขณะที่ในส่วนของสถานบริการ สถานบันเทิง อาทิ ผับ บาร์ คาราโอเกะ และอาบอบนวด ยังไม่อนุญาตเปิดบริการ เพราะอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูงมาก

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดที่นั่งบนเครื่องบิน ให้นั่งไม่ต้องเว้นระยะแต่ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา

ทั้งนี้ก่อนร่วมประชุม ศบค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่ามาตรการต่าง ๆ ที่เราทำมาล้วนเป็นการทำเพื่อลดการติดเชื้อภายในประเทศให้น้อยที่สุด เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์ขณะนี้ถือว่าไว้วางใจได้แล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนออกมา เราทุกคนก็ยังต้องระมัดระวัง ทางที่ดีที่สุดทุกคนยังคงต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย

กรณีข้อเรียกร้องให้เปิดสนามบินนานาชาติภูเก็ตมีความเป็นไปได้ในเร็ว ๆ นี้หรือไม่นั้น นายอนุทินตอบว่า ส่วนตัวคิดว่าควรจะต้องเปิดสนามบินนานาชาติภูเก็ตได้แล้วเพราะขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิเองก็ยังเปิดให้บริการแล้วเช่นกัน และต้องการให้เปิดเร็วที่สุด เนื่องจากขณะนี้ไม่มีการติดเชื้อภายใน ประเทศมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว อีกไม่กี่วันก็จะครบ 28 วัน ซึ่งเมื่อถึงเวลาดังกล่าวก็ถือว่ามีเหตุผลเพียงพอในการที่จะคลายล็อกต่าง ๆ

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงภาพรวมการเปิดการบินระหว่างประเทศว่าจะสามารถเริ่มได้ในเดือนกรกฎาคมนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้ใจเย็น ๆ ขณะนี้มีความคิดที่จะให้มีการจับคู่เดินทางระหว่างประเทศ โดยประเทศของเราก็จะไปดูประเทศที่มีมาตรฐานในการควบคุมกลุ่มโรคที่อยู่ระดับเดียวกัน หรือประเทศที่สามารถควบคุมการติดเชื้อได้ดี ลดการแพร่ระบาดไปได้มาก เป็นลักษณะทำความตกลงจับคู่กัน โดยประเทศทั้งสองฝ่ายจะต้องทำมาตรการในการคัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศของตัวเอง

“ประเทศไทยจะอยู่แบบนี้ต่อไปคงไม่ได้ก็ต้องมีการปรับ ต้องทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ ธุรกิจต่าง ๆ ทำงานได้ ที่สำคัญที่สุดผู้ประกอบการและลูกจ้าง จึงต้องทำทุกอย่างแม้อาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อบ้าง แต่ถ้าเรายังมีระบบการคัดกรองและระบบการรักษาที่ดี ก็มั่นใจได้ว่าเรายังสามารถคุมสถานการณ์ได้ จึงต้องพยายามคืนสู่สภาพปกติให้ได้เร็วที่สุด” นายอนุทิน กล่าว

อ่านโพสต์ทูเดย์ คลิก

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่