จึงได้นำเอา 5 สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกโบรกเกอร์ forexให้เหมาะกับคุณมาฝากกัน
การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ สิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบในการเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์คือชื่อเสียงของโบรกเกอร์เหล่านั้น ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกา โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงจะเป็นสมาชิกของ National Futures Association (NFA) ซึ่งเป็นองค์กรที่กำกับดูแลตนเองสำหรับอุตสาหกรรมฟิวเจอร์ส ซึ่งโดยทั่วไปเทรดเดอร์สามารถตรวจสอบได้จากหมายเลขสมาชิก NFA ในส่วน "เกี่ยวกับเรา" ในเว็บไซต์ของโบรกเกอร์
ฟีเจอร์ของบัญชี โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์แต่ละรายมีข้อเสนอของบัญชีที่แตกต่างกัน ซึ่งในการพิจารณาคุณสมบัติของบัญชีนั้น มี 4 ประเด็นหลักที่ควรเปรียบเทียบกันระหว่างโบรกเกอร์ ได้แก่ เลเวอเรจและมาร์จิ้น ค่าคอมมิชชั่นและสเปรด ข้อกำหนดเงินฝากเริ่มต้น และความสะดวกในการฝากถอน
การเสนอคู่สกุลเงิน ในขณะที่มีสกุลเงินมากมายสำหรับการซื้อขาย แต่มีเพียงไม่กี่สกุลเงินเท่านั้นที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ให้ความสนใจและเป็นสกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูง ได้แก่ คู่ EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY และ USD/CHF เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือโบรกเกอร์ต้องเสนอคู่ฟอเร็กซ์ที่คุณให้ความสนใจในการซื้อขายในฐานะของเทรดเดอร์
การบริการลูกค้า การซื้อขายฟอเร็กซ์เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของโบรกเกอร์ควรพร้อมให้บริการตลอดเวลา และเทรดเดอร์ต้องมีความสะดวกในการติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของโบรกเกอร์เพื่อความช่วยเหลือและการตอบข้อสงสัยต่าง ๆ
แพลตฟอร์มการซื้อขาย เทรดเดอร์ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ของโบรกเกอร์มาพร้อมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานที่ต้องการ รวมถึงสามารถเข้าและออกจากการซื้อขายได้อย่างง่ายดาย ตัวอย่างเช่น มีปุ่มซื้อและขายที่ชัดเจน มีตัวเลือกการปรับแต่ง ประเภทรายการคำสั่ง ตัวเลือกการซื้อขายอัตโนมัติ เครื่องมือสร้างกลยุทธ์ คุณสมบัติการทดสอบย้อนกลับ การแจ้งเตือนการซื้อขาย และข้อเสนอบัญชีทดลองฟรี เป็นต้น
หากเทรดเดอร์เลือกโบรกเกอร์ได้เหมาะสมและมีความมั่นใจในโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ เทรดเดอร์จะสามารถทุ่มเทเวลาและความสนใจในการวิเคราะห์และพัฒนากลยุทธ์ฟอเร็กซ์ได้มากขึ้น การหาข้อมูลเล็กน้อยก่อนที่จะตกลงซื้อขายกับโบรกเกอร์นั้นช่วยได้มาก และสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จของนักลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ที่มีการแข่งขันสูงได้
