มูลนิธิซอยด๊อกเร่งฉีดวัคซีนกรณีไข้หัดสุนัขระบาดบ้านพักพิง

มูลนิธิฯ ได้ฉีดวัคซีนสุนัขที่แสดงอาการป่วยด้วยโรคไข้หัดสุนัข (Canine Distemper) ทั้งสิ้น 248 ตัวในบ้านพักพิงสุนัขจรจัด อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นโรคติดต่อที่อันตรายแก่ชีวิตและสามารถแพร่เชื้อสู่สุนัขตัวอื่นได้ในเวลาอันรวดเร็ว ขณะนี้ยังคงเฝ้าระวังการแพร่กระจายของโรคอย่างใกล้ชิด สำหรับสุนัขที่ป่วยได้ส่งตัวมารักษาที่ศูนย์พักพิงของมูลนิธิฯ แล้ว

การแพร่ระบาดของโรคไข้หัดสุนัขในสถานพักพิงเกิดจากการรวมกลุ่มของสุนัข โดยอาจมีสุนัขที่ยังไม่ได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วนปะปนอยู่ด้วย กินน้ำและอาหารจากแหล่งเดียวกัน ติดต่อจากสารคัดหลั่งจากร่างกายและละอองฝอยในอากาศ เช่น น้ำลาย น้ำตา น้ำมูกและปัสสาวะของสุนัข โรคนี้ไม่มีการรักษาเฉพาะ ทำได้เพียงประคับประคองตามอาการและอัตรารอดชีวิตขึ้นอยู่กับสุขภาพและความสมบูรณ์ของร่างกายสุนัข

ซอยด๊อกสนับสนุนการดูแลสุนัขที่บ้านพักพิงสุนัขจรจัดจังหวัดภูเก็ต โดยส่งสัตวแพทย์และหน่วยบริการด้านสวัสดิภาพสัตว์ชุมชนเพื่อตรวจสุขภาพสุนัขทุกสัปดาห์ ดำเนินการทำหมัน ฉีดวัคซีน และให้การรักษาอาการเจ็บป่วย โดยในปี พ.ศ. 2564 ได้รักษาสุนัขกว่า 3,100 เคส และนำสุนัขจำนวน 74 ตัวกลับมารับการรักษาที่ศูนย์พักพิงของมูลนิธิฯ ทั้งนี้ซอยด๊อกต้องการเน้นย้ำถึงอันตรายของโรคไข้หัดสุนัขที่เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อหากสุนัขอาศัยอยู่ร่วมกันจำนวนมาก โดยยกตัวอย่างเหตุการณ์แพร่ระบาดของไข้หัดสุนัขที่เกาะกูดในช่วงปลายปี พ.ศ. 2564 ซึ่งมีสุนัขบาดเจ็บและล้มตายจำนวนมาก มูลนิธิฯ ได้ส่งวัคซีนจำนวน 860 โดสเพื่อฉีดให้แก่สุนัขที่เกาะเพื่อระงับการแพร่ระบาดของโรค ทั้งนี้เป็นโรคอันตรายที่สามารถป้องกันได้ด้วยการพาสุนัขไปรับวัคซีนเมื่อครบกำหนดอายุ และไม่นำสุนัขที่ยังไม่ได้วัคซีนมารวมกลุ่มกัน

มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยมีความเห็นว่าศูนย์พักพิงไม่สามารถแก้ไขปัญหาสัตว์จรจัดในระยะยาวได้ และเพิ่มโอกาสเสี่ยงด้านสุขภาพเช่นโรคไข้หัดสุนัขที่กำลังระบาดอยู่ การบริหารจัดการศูนย์พักพิงต้องใช้งบประมาณและกำลังคนจำนวนมากในการดูแลสุนัขอย่างทั่วถึง

ด็อกเตอร์อาล่า อิซซี่ดอร์เช็ค ผู้อำนวยการฝ่ายสวัสดิภาพสัตว์ของมูลนิธิฯ กล่าวว่า “หากไม่สามารถจัดการอย่างเป็นระบบได้ ศูนย์พักพิงจะเป็นสถานที่ทารุณกรรมให้สัตว์ได้รับความทุกข์ทรมาน”