นายศักดาพล ทองจันทร์ ผู้จัดการฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ของมูลนิธิกล่าวว่า ในแต่ละพื้นที่ส่วนใหญ่จะมีผู้ให้อาหารสัตว์ในแต่ละจุดอยู่เป็นประจำ ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้อาจมีความจำเป็นต้องย้ายสถานที่ให้อาหาร หรือปรับเปลี่ยนเวลาให้อาหาร ในพื้นที่ที่มีกำหนดเวลาเคอร์ฟิว อย่างไรก็ดีแนะนำว่าหากเป็นไปได้ การให้อาหารสัตว์ในจุดเดิมเวลาเดิมจะเป็นการดีที่สุด เนื่องจากสัตว์นั้นเคยชินแล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสัตว์เหล่านี้จะเปลี่ยนไป จะมีการย้ายถิ่นฐานที่อยู่ ซึ่งการดูแลสัตว์ที่อยู่ในละแวกชุมชนควรเป็นเรื่องของทุกคนในชุมชนที่ช่วยกันสอดส่องดูแล
หากพบสัตว์ที่มีอาการป่วยควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาดำเนินการรักษาและนำไปฉีดวัคซีน เพราะนอกจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ควรเฝ้าระวังแล้ว โรคพิษสุนัขบ้าจากสุนัขและแมวก็เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงเช่นเดียวกัน
รวมถึงให้ดูแลสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน ไม่ทอดทิ้งจากสถานการณ์เช่นนี้ ทั้งนี้ไม่มีรายงานทางการแพทย์ว่าสัตว์เลี้ยงสามารถติดเชื้อและแพร่เชื้อโควิดสู่คนได้ แต่เพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคล ควรหมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์หลังสัมผัสสัตว์ เพื่อหลีกเลี่ยงเชื้อโรคต่าง ๆ และสุขอนามัยที่ดี ซึ่งหากใครที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในการรับเชื้อโควิด-19 ที่อยู่ในช่วงเฝ้าระวังหรือมีอาหารไข้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์เลี้ยงในช่วงนี้
