โดยจุดประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้คือเพื่อนสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการพลิกโฉมระบบการชำระเงินของประเทศไทยในชื่อโครงการ “National e-payment” เพื่อสร้างการรับรู้และป้องปรามธุรกิจการเงินนอกระบบ/ภัยทางการเงิน แชร์ลูกโซ่ เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนตามนโยบายรัฐและ “นวัตกรรมทางการเงินโดยใช้ QR Code เพื่อการรับรู้สิทธิประโยชน์ อาทิ กองทุนการออมแห่งชาติ (บำนาญภาคประชาชน สิทธิประโยชน์ทางภาษี สิทธิประโยชน์ด้านประกันภัย ให้บริการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารรัฐและ Pico Finance (หนี้นอกระบบ) การค้ำประกันสินเชื่อ ให้บริการสมัครใช้ Prompt Pay ตรวจเครดิตบูโร (ฟรี)
สร้างการรับรู้และความเข้าใจด้านการเงินการคลังที่ถูกต้อง ได้แก่
เรื่องหนี้นอกระบบ รัฐบาลได้จัดตั้งสินเชื่อ Pico Finance (เจ้าหนี้นอกระบบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อ) จังหวัดภูเก็ตมีบริษัท โอเค 2017 จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลัง (โครงการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เป็นการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้มีรายได้ที่มีภูมิลำเนาหรือทำงานอยู่ในภูเก็ต วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท มีหรือไม่มีหลักประกันก็ได้ สำหรับผู้มีรายได้ที่ติดแบล็คลิสต์หรือเครดิตบูโร ก็สามารถยื่นกู้ได้
“สำหรับผู้ที่มาลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ ณ วันที่จัดงาน (14 ก.ย. 60) จะได้รับสิทธิพิเศษในการขอกู้ได้ตั้งแต่ 14 ก.ย. - 31 ธ.ค. 60 โดยมี 2 ทางเลือก 1. ได้รับยกเว้นดอกเบี้ย 3% ต่อเดือน หลังจากนั้น คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อเดือน จนครบสัญญา 2. ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 1.5 ต่อเดือน จากอัตราปกติร้อยละ 3 ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 6 เดือน จนครบสัญญา” นายสมเกียรติ จตุราบัณฑิต นายกสมาคมพิโกไฟแนนซ์ กล่าว
เรื่องการติดตั้งเครื่อง EDC รัฐบาลจะจัดเตรียมบัตรสวัสดิการให้กับผู้มีสิทธิได้รับสวัสดิการสังคม ล่าสุดตรวจสอบคุณสมบัติไม่ผ่าน 11 ล้านคนจากการลงทะเบียน 14 ล้านคนสำรับจังหวัดภูเก็ต คาดว่าจะมีผู้มีรายได้น้อยประมาณ 3 หมื่นคน ที่มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการ ซึ่งบัตรนี้จะใช้กับอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) สำหรับการรูดบัตรที่ผู้มีรายได้น้อยตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยรัฐบาลจะชำระเงินเข้าบัญชีร้านธงฟ้าหลังสิ้นเดือน 3 วันทำการ สำหรับร้านค้าปลีกทั่วไปก็ขอติดตั้งเครื่อง EDC ได้ เพื่อขอรับการใช้จ่ายของประชาชนผ่านบัตรเดบิตแทนการใช้เงินสด
เรื่องกองทุนการออมแห่งชาติ (บำนาญภาคประชาชน) รัฐบาลได้เตรียมการรองรับสังคมผู้สูงอายุสำหรับกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า เกษตรกร คบขับแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ผู้มีอาชีพรับข้าง นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป นอกเหนือจากกลุ่มประกันสังคม กลุ่มข้าราชการ โดยเปิดโอกาสให้ออมเงินกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ผ่านธนาคารออมสิน ธกส. กรุงไทย ธอส. โดยรัฐจะจ่ายเงินสมทบให้ฟรีไม่เกินปีละ 1,200 บาทและกำลังจะแก้กฎหมายโดยจะเพิ่มเป็น 1,500 บาท ซึ่งสมาชิกจะได้รับเงินบำนาญเมื่อเกษียณ
เรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษี
1) มาตรฐานการจ้างงานผู้สูงอายุ ให้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่เจ้านายที่เป็นบริษัทหรือนายจ้างหรือที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดนิติบุคคล ซึ่งรับผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปเข้าทำงาน สำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้สูงอายุ โดยใช้สิทธิไม่เกินร้อยละ 10 ของลูกจ้างทั้งหมด
2) มาตรฐานทางภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เงินบริจาคเพื่อนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ผู้บริจาคมีสิทธิหักลดหย่อนหรือหักรายจ่ายทางภาษีได้ 1.5 เท่า สำหรับการบริจาคระหว่างวันที่ 5 ก.ค. - 31 ต.ค. 60
การสนับสนุนเงินทุนตามนโยบายรัฐ
1) แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยธนาคารออมสิน ให้สินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินบรรเทาความเดือดร้อนในครอบครัว เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียน หรืออื่น ๆ ตามความจำเป็นรายละไม่เกิน 50,000 บาท
2) โครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของเกษตรกร และบุคคลในครัวเรือนและโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อป้องกันหนี้นอกระบบ วงเงินต่อรายไม่เกิน 100,000 กรณีสงวนที่ดินรายละไม่เกิน 150,000 บาท และสินเชื่อฉุกเฉินป้องกันหนี้นอกระบบรายละไม่เกิน 50,000 บาท
3) โครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 SME เกษตร โดย ธกส. สนับสนุนสินเชื่อเพื่อสร้างความยั่งยืนของภาคเกษตรกรให้แก่เกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการ(นิติบุคคล) กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ภาคการเกษตร วิสาหกิจชุมชน กองทุนหมู่บ้านและสถาบันการเงินชุมชนที่ประกอบธุรกิจหรือกิจการภาคเกษตรหรือที่เกี่ยวเนื่อง วงเงินสูงสุดไม่เกิน 20 ล้านบาท
4) โครงการบ้านประชารัฐ โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ทั้งการกู้เพื่อซื้อหรือก่อสร้าง หรือต่อเติมซ่อมแซม
5) กองทุนพัฒนา SME ตามแนวประชารัฐโดย SME Bank สำหรับนิติบุคคลกลุ่มธุรกิจ S-Curve หรือกลุ่มธุรกิจที่มีความสำคัญและเชื่อมโยงยุทธศาสตร์จังหวัด วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี ตลอดอายุการสัญญาไม่เกิน 7 ปี
6) โครงการสนับสนุนตามพันธกิจ โดยธนาคารอิสลาม ให้สินเชื่อสำหรับเสริมสร้างธุรกิจรายย่อยมุสลิมวงเงิน 50,000-200,000 บาท ผ่อนนาน 5 ปี ธนาคารมอบความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุตะกาฟุลและการค้ำประกันสินเชื่อจาก บยส.ฟรี
7) การค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ โดย บยส. เปิดโอกาสให้ SMEs ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ทั้งประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ป็น SMEs ที่ได้รับสินเชื่อใหม่ ห้าม (Re-Finance) ค้ำประกันรวมทุกสถาบันการเงินไม่เกิน 40 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลาการค้ำ 10 ปี ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 1.75 ต่อปี โดยรัฐบาลและสถาบันทางการเงินร่วมรับภาระค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 4 แรกแทน SMEs รัฐบาล โดย บสย. ชดเชย NPL สูงสุด 40%
8) การรับลลงทะเบียน Prompt Pay ทุกธนาคาร (เว้น SME Bank) และการติดตั้งเครื่อง EDC โดยกรุงไทยและออมสิน เพื่อผลักดันนโยบาย National E-Payment ในการเป็น cashless society อำนวยความสะดวกให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้บัตรเดบิตแทนการใช้เงินสด ผู้สนใจขอรับคำปรึกษาได้ในงาน
นางลัดดา พุทธชาติ คลังจังหวัดภูเก็ต ประธานคณะผู้บริหารคลังประจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “งาน “Phuket Money Fair 2017 #1” เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ระหว่างทีมคบจ.และหอการค้า โดยการสนับสนุนของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อขับเคลื่อนมาตรการการเงินการคลังในทุก ๆ มาตรการมารวมในที่เดียวกัน”
ด้านนายจรัล ส่างสาร แทนประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “หอการค้าในฐานะที่ปรึกษาของคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัดภูเก็ตหรือคบจ. เราได้มีการประชุมหารือร่วมกันมาโดยตลอด งาน “Phuket Money Fair 2017 #1” ครั้งนี้นับว่าเป็นกิจกรรมที่ดีที่จะเกิดประโยชน์อย่างทั่วถึง”
