ภูเก็ตยกระดับความเข้มข้นคัดกรองโควิด ตรวจแคมป์ต่างด้าวพบเข้าเกณฑ์ 3 ราย

ภูเก็ต - ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยกระดับการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 เชิงรุก ออกคำสั่งจังหวัดในหลายมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาด รุกตรวจแรงงานต่างด้าวทั้ง 3 อำเภอ มาจากพื้นที่เสี่ยงสมุทรสาคร 29 คน เป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 3 คน

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 22 ธันวาคม 2563, เวลา 15:56 น.

ภาพ เทศบาลตำบลราไวย์

ภาพ เทศบาลตำบลราไวย์

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.63 นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 500 ราย   ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ได้เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังยกระดับการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และกำชับให้ตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังป้องกันโรคโควิด-19 

เพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (1) (7) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 56/2563 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2563 จึงออกคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 7292/2563 เรื่อง มาตรการสกัดกั้น เฝ้าระวังเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19พื้นที่จังหวัดภูเก็ต  ดังต่อไปนี้ 

มาตรการสกัดกั้น เฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองที่ไม่ผ่านกระบวนการคัดกรองโรคโดยให้ตั้งด่านตรวจคัดกรองโรคสำหรับบุคคลยานพาหนะที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดำเนินการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน กล้องตรวจจับความร้อนวัดอุณหภูมิบุคคล เพื่อเฝ้าระวังโรคโควิด-19 

กำหนดให้ ทางบก ปฏิบัติหน้าที่ ณ ด่านตรวจภูเก็ต(ท่าฉัตรไชย) ทางน้ำ ปฏิบัติหน้าที่ ณ ท่าเทียบเรือมนพื้นที่จังหวัดภูเก็ต  และ ทางอากาศ ปฏิบัติหน้าที่ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต  

มาตรการคัดกรอง และติดตามการลักลอบเข้าเมืองโดยใช้มาตรการคัดกรองเชิงรุก ตรวจสอบสถานประกอบการ สถานที่ทำงาน ที่พัก แคมป์คนงานต่างด้าวที่มีแนวโน้มใช้แรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ประสานกำลังการปฏิบัติระหว่างจัดหางานจังหวัดภูเก็ต ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ฝ่ายปกครอง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่

มาตรการด้านการข่าว ประสานเฝ้าระวัง สังเกต ค้นหาและแจ้งเบาะแส ผู้ลักลอบเข้าเมืองกระบวนการนำพาและผู้ให้ที่พักพิงกับแรงงานต่างด้าวเพิ่มมาตรการตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะในพื้นที่จังหวัดและพื้นที่ชั้นในโดยใช้กลไกผู้ปกครองท้องที่  ผู้บริหารองค์กรส่วนท้องถิ่นและอาสาสมัครในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านโดยวางข่ายข่าวและจัดตั้งแหล่งข่าวรวมทั้งกำหนดให้มีการตั้งด่านตรวจคัดกรองโรคสำหรับบุคคลที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่สอเคล้องกับมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

มาตรการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ให้ประชาชน สถานประกอบการ สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้าฯลฯ กิจการหรือกิจกรรมที่มีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก ปฏิบัติตามแนวทางการเฝ้าระวังใช้มาตรการ DMHT สร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ต่อตนเองและคนรอบข้าง รักษาระยะห่าง สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้านหรืออยู่ในที่สาธารณะ รักษาความสะอาดด้วยเจลล้างมือหรือแอลกอฮอล์ วัดอุณหภูมิและใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาด

อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะจึงไม่อาจให้คู่กรณีใชัสิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง(1)แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และอาจเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1)  ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต รายงานการดำเนินงานการคัดกรองโควิดที่แคมป์แรงงานต่างด้าวประจำวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ตรวจแรงงานต่างด้าวทั้ง 3 อำเภอ จำนวน 48 แคมป์ จำนวน 2,293 คน ในจำนวนนี้ มาจากพื้นที่เสี่ยงจังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 29 คน พบว่า เป็น PUI หรือ ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค จำนวน 3 คน  

สำหรับประกาศปิดการเรียนการสอนชั่วคราวของโรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา ณ เวลา 14.45 น. เนื่องจากได้รับการประสานงานอย่างไม่เป็นทางการจากสสจ.ภูเก็ต ว่ามีผู้ปกครอง 1 รายมีผลทดสอบโควิดเป็นบวกนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าทางโรงเรียนจะปิดทำการชั่วคราว ในระหว่างวันที่ 23-24 ธ.ค. ในขณะรอผลตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการรอบที่สอง จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในช่วงบ่ายของวันนี้

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่