ภายหลังจากที่ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชพร้อมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่เก็บตัวอย่างพิสูจน์ DNA เจ้าเลพัง (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
ในส่วนของการจัดการนั้น อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมประมงที่จะดำเนินการว่าจะนำจระเข้ไปเลี้ยงหรือนำไปปล่อย ณ จุดใด ซึ่งขึ้นอยู่กับผลดีเอ็นเอที่ตรวจพบ
อย่างไรก็ตาม จากข้อสงสัยที่หลายคนคาดการณ์ว่าจระเข้ดังกล่าว อาจจะเป็นจระเข้ที่มีประชาชนเลี้ยงเอาไว้และหลุดออกมา หรือเลี้ยงแล้วไม่สามารถเลี้ยงต่อได้แล้วมานำปล่อยในธรรมชาตินั้น ซึ่งมีแนวโน้มที่อาจจะเป็นไปได้เนื่องจากเมื่อประมาณ 1 ถึง 2 ปีที่ผ่านมา ในพื้นที่ดังกล่าวเคยมีการขออนุญาตเลี้ยงจระเข้มาก่อน แต่ขณะนี้ได้ดำเนินการปิดฟาร์มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตได้สั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้านท้องที่ ท้องถิ่นและเครือข่ายตาสัปปะรด ดำเนินการตรวจสอบว่าจระเข้ดังกล่าวนั้นมีที่มาอย่างไร ซึ่งหากพบว่า เป็นจระเข้ที่มีประชาชนลักลอบเลี้ยงก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ซึ่งจะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากจระเข้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยหากสื่อมวลชนหรือประชาชนมีเบาะแส ก็สามารถแจ้งข่าวสารมาได้ที่ จังหวัดภูเก็ต