พืชลอยน้ำความงดงามในตัวเอง ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร

หากพูดถึงพรรณไม้อันเป็นที่นิยมในสระน้ำหรือบ่อน้ำในสวนแบบไทยของคุณ หลายคนคงนึกไปถึงบรรดาดอกบัวหรือบัวสาย ซึ่งจริง ๆ แล้วยังมีต้นไม้อีกหลายสายพันธุ์ทีเดียวที่น่าสนใจ และหนึ่งในนั้นคือ ต้นปาปิรุสอียิปต์ (ซีเปรุส หรือ ปาปีรุส)

Patrick Campbell

วันเสาร์ ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564, เวลา 12:00 น.

สำหรับเด็กชายในวัยเรียนแล้วนั้นมักจะรู้จักต้นไม้สายพันธุ์นี้ว่าเป็นพืชชนิดแรก ใช้นำไปผลิตเป็นกระดาษ ข้อเท็จจริงอีกอย่างที่ไม่ค่อยจะรู้กันนักก็คือเราจะรู้จักกันในชื่อของ “ต้นกก” ที่ซึ่งเป็นที่ซ่อนตัวของบรรดาต้นมอสเล็ก ๆ ด้วยลำต้นสูงยาวสวยงาม กาบรองดอกเรียวแหลม (พัฒนามาจากก้านดอก) อยู่รอบ ๆ แผ่ยื่นออกมาจากศูนย์กลางของดอก ซึ่งลำต้นของกกชนิดนี้จะเติบโตขึ้นสูงประมาณ 2 เมตร สร้างความสวยงามเหนือพื้นผิวของสระหรืออ่างปลูกต้นไม้ในบ้านของคุณ

ไม้ประเภทนี้แม้จะมีขนาดเล็กกว่าแต่มีคุณค่าเท่าเทียมกับพืชน้ำอื่น ๆ และหาได้ง่ายกว่ามากตามร้านขายต้นไม้ทั่วไป และยังเป็นพืชตระกูลเดียวกับต้นกกรังกาอีกด้วย บางครั้งเป็นที่รู้จักในชื่อว่า Umbrella Plant ซึ่งมีที่มาจากแถบมาดากัสการ์และมีใบคล้ายหญ้าเป็นวงกว้างไล่เลี่ยกับส่วนบนของลำต้นที่มีลักษณะเรียวยาว

พืชทั้งสองชนิดนี้ชาวอเมริกันมักจะเรียกว่า “accent plants” ซึ่งจะมีความแตกต่างกับพืชที่มีลักษณะกระจายตัว บนผิวน้ำอย่างพวกดอกบัวสายหรือไม้ลอยน้ำอื่น ๆ เช่นผักกาดน้ำหรือผักตบชวา ที่บ้านผู้เขียนเองจะมีพืชตระกูลกกเติบโตที่ขอบบ่อปลาและอีกสองสามชนิดในกระถางขนาดใหญ่ ที่ใช้เลี้ยงปลาหางนกยูงและปลาหางดาบเม็กซิกัน ซึ่งมักซ่อนตัวอยู่ในรากที่แผ่กว้างของต้นไม้ประเภทนี้ ที่จะสามารถเติบโตไปได้แทบจะทุกที่

พืชอีกชนิดหนึ่งที่นับว่าเป็นภาพที่คุ้นหน้าคุ้นตาตามหน้าบ้านของคนไทยก็คือ ต้นคล้าน้ำหรือพุทธรักษาน้ำ ซึ่งเป็นไม้ใบตั้งตรงมักมีลำต้นสีแดงสวยงามและใบรูปใบหอกสีเขียวสดขนาดใหญ่ ดอกไม้เล็ก ๆ ของมันจะมีสีม่วงและมีจุดสีขาวและห้อยลงมาจากปลายก้าน ซึ่งอาจเจริญเติบโตจนมีความสูงได้ถึง 3 เมตร

ต้นคล้าน้ำสามารถเติบโตรับแสงอาทิตย์ได้เต็มที่ในอ่างหรือกระถางที่ใส่น้ำไว้เต็ม แต่มันก็ยังสามารถเจริญเติบโตได้ในบริเวณที่มีดินชื้นอยู่ตลอดเวลา อย่างเช่นบริเวณขอบบ่อปลา ซึ่งจะทำให้ลำต้นและใบเติบโตดีมากขึ้น ต้นคล้าน้ำจะงอกจากเมล็ดหรือใช้การแบ่งรากก็ได้ ต้นไม้พวก “accent plants” จะมีการเจริญเติบโตที่แตกต่างออกไปหากอยู่ในภาวะขาดน้ำ โดยส่วนของใบมักจะเป็นสีเหลืองบริเวณขอบ ๆ

ทั้งต้นกกและต้นคล้าน้ำโดยปกติแล้วจะฝังรากลงไปในดินที่มีลักษณะอิ่มน้ำ ในทางกลับกันพวกผักตบชวา จะมีลักษณะที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ส่วนดอกมีสีม่วง ลำต้นกลวง ดอกของมันสวยงาม น่าดึงดูดใจทีเดียวหากปลูกในพื้นที่ที่จำกัด รากที่จมอยู่ใต้น้ำแบบอิสระมีสีม่วงดำรูปไข่ ใบเป็นสีเขียวเข้ม

ผักตบชวาถือว่าเป็นพืชที่เติบโตเร็วที่สุดชนิดหนึ่ง แพร่พันธุ์โดยใช้ไหลที่อยู่ใต้น้ำซึ่งจะแตกตัวเป็นต้นใหม่ จากการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้มันสามารถปกคลุมผืนน้ำได้ในเวลาไม่กี่วันโดยเหมือนปูพรมพื้นผิวทั้งหมด และยังเป็นตัวทำลายสัตว์น้ำอื่นๆ ผักตบชวายังถือเป็นพืชที่มีมูลค่าทางการค้าในแถบทวีปเอเชียโดยสามารถนำ มาใช้เป็นวัสดุคลุมดินหรือปุ๋ยได้ในขณะที่รากเส้นใยของมันถูกนำมาใช้เพื่อทอเป็นเฟอร์นิเจอร์ขายตามท้องตลาด และนี่ถือเป็นข้อที่เราน่าจะใช้ประโยชน์จากมันได้

ผักตบชวานั้นถือว่ามีความแปลกกว่าพวกจอกหูหนู ซึ่งลอยได้เช่นกัน แต่พวกจอกจะไม่มีส่วนของดอก ลักษณะคล้ายใบกุหลาบสีเขียวมรกตที่จับจีบลึกจะงอกออกมาจากรากที่ห้อยอยู่ใต้ผิวน้ำ สิ่งเหล่านี้จะมีลักษณะราบบนผิวน้ำ แต่ถ้าดอกจอกอยู่ติด ๆ กันในอ่างน้ำ มันก็จะกลายเป็นต้นที่ลักษณะตั้งตรงมากขึ้น จอกสามารถขยายพันธุ์โดยการแตกไหลบริเวณโคนต้น ซึ่งเราสามารถแยกออกไป เพื่อเริ่มต้นปลูกใหม่ที่อื่นได้

หากเราปลูกพืชลอยน้ำทั้งสองประเภทนี้ในบ่อน้ำในสวน มันจะเป็นที่พักพิงสำหรับพวกปลาและสามารถกำจัดสิ่งสกปรกบางส่วนออกจากน้ำได้ แต่ไม่ควรให้มันเติบโตคลุมพื้นผิวน้ำทั้งหมด เราจะต้องจัดการมันออกไปเป็นระยะ ๆ และต้องเอาใบไม้ที่ตายออก ก่อนที่พวกมันจะไปลดปริมาณออกซิเจนในน้ำ

ต้นกระจับ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับสวนขนาดเล็กที่มีพวก “พืชไม้ลอยน้ำ” ลักษณะเรียบแบนรูปเพชร ใบดูคล้ายรูปดอกกุหลาบลอยอยู่เหนือผลที่จมอยู่ใต้น้ำ ส่วนของผลสีน้ำตาลเนื้อแข็งนี้มีลักษณะคล้ายหัวของวัว มีลักษณะคล้าย ๆถั่วขนาดใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นอาหารแสนอร่อย โดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน ส่วนผลเหล่านี้สามารถใช้ในการขยายพันธุ์ได้ กระจับที่เกิดในป่าจะใช้ส่วนรากฝอยในการขยายพันธุ์ โดยขยายได้ 3 หรือ 4 เมตรในโคลนที่ก้นบ่อ หรือบริเวณที่กระแสน้ำไหลช้า ๆ มันสามารถเจริญเติบโตได้ในบริเวณที่มีแสงแดดจัด และการที่มันแพร่ขยายได้ช้ากว่าจำพวกจอก มันจึงดูดีและสวยไม่เบาเลยทีเดียวเมื่อเราเอาใส่ในภาชนะปลูก

“The Tropic Gardener” คู่มือที่ขาดไม่ได้สำหรับคำแนะนำและความรู้เรื่องพืชและการเพาะปลูกในประเทศไทย ติดต่อโดยตรงได้จากผู้เขียนที่ drpaccampbell@gmail.com จากร้านหนังสือเส้งโหในตัวเมืองภูเก็ต หรือที่ร้าน Delish ราไวย์

แปลและเรียบเรียง: ธิชา/ข่าวภูเก็ต

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่