วันนี้ (4 ต.ค. 61) นายมาแอน สำราญ นายกอบต.เชิงทะเล ได้กล่าวถึงการแก้ปัญหาระบบการจัดการน้ำเสียไหลลงหาดสุรินทร์ ในโอกาสการแถลงข่าวผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพบสื่อมวลชน ครั้งที่ 1/2562 ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
“ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ได้สอบถามประเด็นปัญหาน้ำเสียตามภาพที่ปรากฏบริเวณหาดสุรินทร์ ขอเรียนว่าโครงการบำบัดน้ำเสียของอบต.เชิงทะเลเป็นโครงการต้นแบบที่ได้มีการทำระบบใต้ดิน ซึ่งไม่ได้มีการโชว์ระบบบำบัดเหนือผิวดิน โดยโครงการจะแบ่งเป็น 2 ช่วงคือ หาดบางเทาและหาดสุรินทร์ แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือพื้นที่หาดสุรินทร์” นายมาแอน กล่าว
“ในเรื่องนี้ ขอนำเรียนว่าเราได้งบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมส่วนหนึ่งประมาณ 248 ล้าน และอบต.เชิงทะเลสมทบอีกประมาณ 106 ล้าน รวมทั้งสิ้น 355 ล้าน ขณะนี้เราได้มีการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งฮาร์ดแวร์ทุกอย่างครบถ้วนแล้วมีการทดสอบระบบอย่างถี่ถ้วน ซึ่งหลังจากมอบงานเมื่อต้นปีที่แล้วก็ได้มีการทดสอบกว่า 2 เดือน และพบว่าไม่มีปัญหาอะไร”
“ขั้นตอนหลังจากส่งมอบแล้วเราจำเป็นต้องมีผู้มาบริหารจัดการระบบ แต่ปัญหาคือหลังจากที่เราได้รวบรวมราคากลางในการจัดจ้างตามระเบียบที่ปีละ 5 ล้านบาท ปรากฏว่าไม่มีบริษัทใดเข้ามายื่นความจำนงเพื่อจัดการเดินระบบบำบัดน้ำเสียเลยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าทางเราต้องดำเนินการตามขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้างซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปถึง 3 ครั้ง” นายกอบต.เชิงทะเล อธิบาย
ทั้งนี้เมื่อเดือนมีนาคม ชาวบ้านก็ได้ออกมาร้องขอความชัดเจนในการแก้ปัญหาน้ำเสียบริเวณหาดสุรินทร์ หลังจากระบบบำบัดมูลค่ามากกว่า 300 ล้านสร้างเสร็จแล้วแต่ไม่ได้ใช้งาน แม้เวลาผ่านไปหลายเดือนแต่การแก้ปัญหาก็ยังไม่คืบหน้า (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
นายกเล็กเชิงทะเลยังยืนยันเหมือนเช่นที่ผ่านมาว่า ทางอบต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ดำเนินการทุกอย่างตามกำลังความสามารถตามระเบียบขั้นตอนของทางราชการ
“เนื่องจากเราไม่สามารถจดจ่อกับการประกวดราคาเพียงอย่างเดียวได้ ในระว่างนั้นเราจึงได้ตรวจเข้มโรงแรมหรืออาคารบ้านเรือนที่เราสันนิษฐานว่าจะเป็นต้นเหตุในการปล่อยทิ้งน้ำเสียลงสู่ทะเล โดยทางอบต.ได้ลงพื้นที่ตรวจพร้อมกับเจ้าหน้าที่ในระดับจังหวัดอย่างเข้มข้นเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง แต่แม้จะตรวจเข้มเราก็สามารถแก้ไขได้ในระดับหนึ่ง เพราะคนที่จงใจปล่อยน้ำเสียเขาจะดำเนินการใน 2 ช่วงเวลาคือ กลางดึกและวันที่ฝนตก ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของเราได้” นายมาแอน กล่าว
พร้อมทั้งชี้แจงเพิ่มเติมอีกว่า แรงจูงใจในการแอบปล่อยน้ำเสียของผู้ประกอบการคือ “การลดค่าใช้จ่าย”
“การจัดการน้ำเสียของโรงแรมมันมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟฟฟ้า ค่าสารเคมี และเจ้าหน้าที่ ฉะนั้นสถานประกอบการที่ไม่รักภูเก็ต เขาจะลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ โดยการบายพาสน้ำเสียลงสู่คลองสาธารณะประโยชน์และไหลลงสู่ทะเลโดยที่ปราศจากการบำบัด”
นายมาแอนกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าทางอบต. พยายามแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างเต็มที่ โดยการกักน้ำเอาไว้และนำไปกรอง เพื่อใช้ประโยชน์ เช่นรดน้ำต้นไม้ แต่ปัญหาที่ตามมาคือส่งกลิ่นเหม็นทำให้ต้องหยุดไป จนกระทั่งมีข่าวดีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
“วันนี้ขอประกาศข่าวดีว่าบริษัทที่ดำเนินจัดการระบบบำบัดน้ำเสียของทม.ป่าตองได้เข้ามายื่นซื้อซองแล้ว คาดว่าระบบบำบัดน้ำเสียของอบต.เชิงทะเลจะเริ่มดำเนินการได้เร็ว ๆ นี้ (ในอีก 2 เดือนข้างหน้าโดยประมาณ) ซึ่งในขณะเดียวกัน สิ่งที่เราดำเนินการควบคู่ไปกับเรื่องนี้คือ เรามีการทำงานร่วมกับองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) เป็นแบบคู่ขนาน โดยในปีที่ผ่านมาได้ทำบันทึกความเข้าใจร่วมกันว่าทางอจน.ประสงค์จะเข้ามาดำเนินการในเรื่องนี้ จากนั้นก็ได้นำเรื่องเข้าสู่สภาเพื่อที่จะเสนอผู้ว่าฯในการที่จะขอยกเว้นระเบียบการจัดจ้างที่เราทำได้เพียงปีต่อปี อย่างไรก็ตามโครงการของ อจน.ต้องดำเนินการอย่างน้อย 15 ปี ในลักษณะก่อหนี้ผูกพัน ขณะนี้สภาอนุมัติเรียบร้อยแล้ว ทราบว่าได้นำเสนอท่านผู้ว่าราชการจังหวัดไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน” นายมาแอน กล่าว
“หากท่านผู้ว่าฯลงนามเห็นด้วยกับสภาในระยะเวลาดำเนินการ 15 ปี ของอจน. เราก็จะเข้าสู่กระบวนการลงนามในสัญญา รวมทั้งข้อตกลงในรายระเอียดการจัดการทั้งระบบกับอจน. ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสพูดคุยกับทางอจน.คาดว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน อจน.จะเข้ามาบริหารจัดการแทนบริษัทที่เราจะทำการจัดจ้างได้ในปี 2564 แต่ต้องยอมรับว่าน้ำเสียปล่อยทุกวัน ขอฝากท่านสื่อมวลชนว่าเราทำทุกวิธีการเต็มกำลัง และไม่ได้ปล่อยปละละเลยแต่อย่างใด อะไรก็ตามที่เราสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้เราจะทำให้ถึงที่สุด” นายกอบต.เชิงทะเล กล่าวยืนยัน
