แนนซี เปโรซี ประธานวิปเสียงข้างน้อยพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เรียกร้องให้ เจฟฟ์ เซสชันส์ รัฐมนตรียุติธรรมลาออกและให้มีการสืบสวนสัมพันธ์ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กับรัสเซีย หลังหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า เซสชันส์ติดต่อกับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐ 2 ครั้ง ช่วงก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง แม้เซสชันส์ยังยืนยันก่อนรับตำแหน่งว่าไม่เคยติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย
ทั้งนี้ เซสชันส์ออกมาปฏิเสธว่ารายงานของวอชิงตันโพสต์เป็นข่าวลวง อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ชี้แจงว่า การติดต่อกับทูตรัสเซียครั้งแรก เกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.ย. ซึ่งเซสชันส์ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะวุฒิสมาชิก และ คณะกรรมาธิการทางทหารของสหรัฐ โดยหารือกับเอกอัครราชทูตประเทศอื่นๆ มากกว่า 25 ครั้ง ขณะที่อีกครั้งหนึ่งเป็นการพบปะในงานสถาบันวิจัยฝ่ายอนุรักษนิยมของสหรัฐ ซึ่งมีเอกอัครราชทูตจากหลายชาติเข้าร่วม รวมถึงรัสเซีย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังไมเคิล ฟลินน์ ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐ หลังมีการเปิดเผยว่าแอบติดต่อกับเอกอัครราชทูตรัสเซียในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งของทรัมป์
ขณะเดียวกัน รอยเตอร์สรายงานเอกสารของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิว่า การสร้างกำแพงตามแนวชายแดนสหรัฐและเม็กซิโกกำลังเผชิญกับอุปสรรค เนื่องจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิได้รับงบประมาณสำหรับส่วนดังกล่าวเพียง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 690 ล้านบาท) ซึ่งเพียงพอเฉพาะแค่การทำสัญญาก่อสร้างเท่านั้น แต่ไม่เพียงพอต่อการสร้างทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ รอยเตอร์สรายงานอ้างเอกสารภายในว่า การสร้างกำแพง ดังกล่าวต้องใช้งบประมาณทั้งหมด 2.16 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 7.55 แสนล้านบาท) โดยคิดเป็น 9.3 ล้านเหรียญสหรัฐ/ไมล์ (ราว 325 ล้านบาท) สำหรับแนวรั้วกั้น และ 17.8 ล้านเหรียญสหรัฐ/ไมล์ (ราว 622 ล้านบาท) ทำกำแพงกั้น
ทั้งนี้ ทรัมป์ ระบุก่อนหน้าว่า การก่อสร้างจะใช้งบของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และจะขอให้สภาคองเกรสอนุมัติงบการก่อสร้างไปก่อนและเม็กซิโกจะเป็นผู้จ่ายคืนภายหลัง
