ทรัมป์กับเฟคนิวส์เกี่ยวกับโควิด-19 และสุดท้ายลงเอยที่ติดเอง

สหรัฐอเมริกา - รวบรวมคำพูดที่ผู้นำสหรัฐเอ่ยถึงการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส ก่อนที่ทรัมป์จะติดเสียเอง

โพสต์ทูเดย์

วันศุกร์ ที่ 2 ตุลาคม 2563, เวลา 15:39 น.

โดนัล ทรัมป์ ภาพ เอเอฟพี

โดนัล ทรัมป์ ภาพ เอเอฟพี

29 ก.พ. “เราจัดการกับโคโรนาไวรัสอย่างแข็งขันที่สุด แข็งขันกว่าประเทศไหนๆ ”

“จนถึงตอนนี้สหรัฐตรวจหาเชื้อมากกว่าประเทศอื่นๆ” ทรัมป์พูดประโยคนี้เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ซึ่งขณะนั้นตัวเลขล่าสุดของทางการระบุว่ามีชาวอเมริกันได้รับการตรวจหาเชื้อโคโรนาไวรัสรวมทั้งหมด 418,810 คน

เมื่อถูกถามเรื่องอัตราการเสียชีวิตที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศ ทรัมป์กล่าวว่า “ผมว่า 3.4% ไม่ใช่ตัวเลขที่ถูกต้อง ส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันต่ำกว่า 1%”

“เร็วๆ นี้เรากำลังจะมีวัคซีน” ทรัมป์กล่าวไว้ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. ขณะที่บรรดานักวิทยาศาสตร์คาดว่าอย่างเร็วที่สุดคือราวกลางปีหน้าจึงจะมีวัคซีน-24 เม.ย. ทรัมป์เอ่ยระหว่างการแถลงข่าวว่า “สมมุติว่าร่างกายเราเจอกับอะไรที่เลวร้ายมากๆ การเอาแสงยูวีหรือแสงอะไรก็ตามที่มันรุนแรงมาก เช่น แสงอาทิตย์ การนำแสงเข้าสู่ร่างกายมันเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ผมคิดว่าพวกคุณน่าจะลองไปทำดู และผมยังนึกถึงยาฆ่าเชื้อ ซึ่งมันจะฆ่าเชื้อโรคได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 นาที แค่ 1 นาทีเท่านั้นจริง ๆ และมันมีวิธีหลายอย่างที่คุณสามารถทำได้ เช่นการใช้ยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดให้ทั่วไปเลย หรือไม่ก็ฉีดยาฆ่าเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย แล้วมันจะเข้าไปที่ปอด และช่วยล้างปอดได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว”

- พ.ค. ทรัมป์เผยว่าตัวเองได้รับประทานยาไฮดรอกซีคลอโรควินซึ่งใช้รักษามาลาเรียเพื่อป้องกัน Covid-19 ทั้งที่ยังไม่มีหลักฐานว่ายาดังกล่าวใช้ได้ผลกับ Covid-19 “ผมกินไฮดรอกซีคลอโรควิน และผมก็ยังอยู่ตรงนี้ มันไม่มีอะไรจะต้องเสียอยู่แล้วนี่”

- 8 ก.ย. "วัคซีนจะมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพอย่างมาก และจะมีการวางจำหน่ายในไม่ช้านี้" และย้ำอีกว่าสหรัฐอาจอนุมัติวัคซีนในเดือน ต.ค.นี้ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือน พ.ย. 63

21 ก.ย. ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Fox & Friends ว่าวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาจะได้รับการอนุมัติใน 4-8 สัปดาห์ "เราไม่มีวัคซีนมาหลายปีแล้ว และกำลังจะมีวัคซีนเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ อาจจะเป็น 4 หรือ 8 สัปดาห์ เพราะเรามีบริษัทที่ยอดเยี่ยมมากมาย"

- 30 ก.ย. ระหว่างดีเบตกับ โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ทรัมป์เอ่ยว่า “ผมคุยกับไฟเซอร์ คุยกับทุกคนที่ควรจะคุย โมเดอร์นา จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และบริษัทอื่นๆ พวกเขาทำได้เร็วกว่านั้นมาก อีกไม่กี่สัปดาห์เราก็จะมีวัคซีนกันแล้ว”

- 30 ก.ย. ทรัมป์เอ่ยในทำนองเย้ยไบเดนระหว่างดีเบตกันว่า “ผมไม่ใส่แมสก์เหมือนเขา ทุกครั้งที่คุณเห็บไบเดน เขาสวมแมสก์ตลอดแหละ”

-2 ต.ค.ทรัมป์ทวีตว่า “คืนนี้ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งและผมติด Covid-19 เราจะเริ่มกักตัวและเข้าสู่กระบวนการรักษาทันที เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน”

สรุปรายชื่อผู้นำประเทศจากทั่วโลกที่ตกเป็นเหยื่อโควิด-19

จากข่าวล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐออกมายอมรับว่าตนติดโควิด-19 พร้อมเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง โดยเข้ารับการตรวจหลัง โฮป ฮิกส์ ที่ปรึกษาคนสนิทของเขามีผลตรวจเป็นบวก ซึ่งก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้เดินทางไปทำงานในหลายรัฐ อาทิ โอไฮโอ และมินนิโซตา รวมถึงเข้าร่วมการดีเบตกับ โจ ไบเดน เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมาอีกด้วย

โดยก่อนหน้านี้มีผู้นำประเทศจำนวนไม่น้อยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเช่นเดียวกัน

มาซูเมห์ เอบเตการ์ รองประธานาธิบดีอิหร่าน ถูกตรวจพบว่ามีเชื้อไวรัสโคโรนาเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ โดยเป็นนักการเมืองคนที่ 4 ที่มีผลการตรวจโรคเป็นบวก

เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 ประมุขแห่งโมนาโก ถือเป็นประมุของค์แรกของโลกที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา โดยราชรัฐโมนาโกแถลงในวันที่ 19 มีนาคม แต่พระอาการไม่รุนแรงมากนักและยังเรียกร้องให้ชาวโมนาโกปฏิบัติตามมาตรการกักกันเพื้อป้องกันการติดเชื้อ ภายหลังในเดือนเมษายนคณะแพทย์ยืนยันว่าพระองค์ตรวจไม่พบเชื้อแล้ว

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ ทรงติดโควิดเช่นเดียวกัน โดยสำนักพระราชวังแถลงเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทราบว่าพระองค์ทรงติดมาจากใครเนื่องจากพระองค์ออกงานมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายหลังปรากฏคลิปวิดีโอแรกหลังทรงหายจากการติดเชื้อแล้วเมื่อวันที่ 1 เมษายน

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ได้รับการตรวจยืนยันว่าติดโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม โดยประกาศผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว และรักษาหายพร้อมกลับมาทำงานเมื่อวันที่ 27 เมษายน

คาร์เมน คาลโว รองนายกรัฐมนตรีสเปน ได้รับการทดสอบโควิด-19 เป็นบวก โดยรัฐบาลสเปนออกมาประกาศเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ในวันที่ 22 มีนาคม เธอมีอาการติดเชื้อในระบบหายใจและและทำการตรวจหาเชื้อมาแล้วก่อนหน้านี้ถึง 2 ครั้งก่อนที่จะพบผลเป็นบวกในครั้งที่ 3

มิคาอิล มิชูสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย โดยสำนักข่าวรอยเตอร์สายงานเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมว่าผลการตรวจเชื้อของเขาเป็นบวก โดยเขาได้แจ้งข่าวกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียผ่านการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และหายป่วยพร้อมกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 19 พฤษภาคม

นิโคล ปาชินเนียน นายกรัฐมนตรีอาร์เมเนีย ประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ว่าตนและครอบครัวมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก โดยระบุว่าเขายังไม่มีอาการป่วยใดๆ และจะทำงานต่อไปในบ้านพัก พร้อมเตือนให้ประชาชนสวมหน้ากากอยู่เสมอและหมั่นล้างมือเป็นประจำ

ฌาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิล เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม และแถลงว่ามีผลตรวจเป็นบวกเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเชื่อว่าโควิด-19 เป็นเพียงแค่ไข้หวัดธรรมดา และยังเคยปลดรัฐมนตรีสาธารณสุขที่รณรงค์ให้ชาวบราซิลเว้นระยะห่างทางสังคม และเข้าร่วมการประท้วงต่อต้านคำสั่งล็อกดาวน์อีกด้วย

ยานีน อาเนซ รักษาการประธานาธิบดีโบลิเวีย ประกาศผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมว่าเธอมีผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวกยังจะยังแสดงอาการป่วยใดๆ ทั้งนี้ก่อนหน้านั้นไม่นานรัฐมนตรีอีก 3 คนของโบลีเวียก็ได้ออกมายืนยันว่าติดเชื้อเช่นกัน

ปรณพ มุขรจี อดีตประธานาธิบดีอินเดีย ติดโรคโควิด-19และถูกนำส่งโรงพยาบาลเมื่อเดือนสิงหาคม แต่อาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมในวันที่ 31 สิงหาคม ด้วยวัย 84 ปี

เอ็ม เวนไคอาห์ ไนดู รองประธานาธิบดีอินเดีย เข้ารับการตรวจและมีผลตรวจเป็นบวก ตามแถลงการณ์ของสำนักรองประธานาธิบดีอินเดียเมื่อวันที่ 29 กันยายน โดยไม่มีอาการป่วยใดๆ และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการกักตัว

อ่านโพสต์ทูเดย์ คลิก

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่