เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ทภก. ได้ดำเนินการกำหนดแนวทางเพื่อรองรับในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินโดยในพื้นที่ทำการบิน (Airside) โดยได้เพิ่มวงรอบในการตรวจระบบส่องสว่างภายในพื้นที่ Airside และระบบไฟนำร่องบนทางวิ่งเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่ออากาศยานที่ทำการลงจอด ณ ทภก. ดำเนินการตรวจความพร้อมของรางระบายน้ำโดยรอบเพื่อป้องกันการท่วมขัง ในเขต Airside พร้อมทั้งเพิ่มวงรอบในการตรวจทางวิ่งเพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมไปถึงการประสานสายการบินในการจอดและจัดเก็บอุปกรณ์ภาคพื้นที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่ออากาศยาน พร้อมทั้งตรวจสอบอากาศยานขนาดเล็กและอุปกรณ์ภาคพื้นต่าง ๆ ให้มีการยึดโยงเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
พร้อมทั้งทดสอบการใช้งานของระบบแจ้งเตือนสภาพอากาศเลวร้าย : Adverse Weather และสภาวะทัศนวิสัยต่ำ : Low Visibility ให้มีความพร้อมใช้งานตลอดเวลา และในกรณีที่ระบบ FIDS : Flight Information Display System ณ ห้องบริการเที่ยวบินเกิดขัดข้องเจ้าหน้าที่จะทำการประสานกับหอบังคับการบิน และห้องต้นหน ศูนย์ควบคุมการบินภูเก็ต เพื่อประสานขอรายละเอียดข้อมูลของเที่ยวบิน ในการขึ้นลง รวมถึงเวลาของเที่ยวบินที่กำหนดมาลง ณ ทภก. เพื่อแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ทภก. ทั้งอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้โดยสารต่อไป
ในส่วนของการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารนั้น ทภก. ได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวโดยมีการบูรณาการร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธรสาคู และศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ณ ห้องโถงเช็คอินผู้โดยสารขาออก ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากพายุ “ปาบึก”
และเพื่อให้การดำเนินการภายในอาคารผู้โดยสารทั้ง 2 หลังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทภก. ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบระบบไฟฟ้าสำรอง ระบบสาธารณูปโภคและระบบสื่อสารภายในอาคารให้สามารถให้บริการผู้โดยสารและผู้ใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และในกรณีที่เกิดอากาศยานอุบัติเหตุนั้น ทภก. ได้มีการเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย รถดับเพลิงอากาศยาน รถดับเพลิงอาคาร และอุปกรณ์กู้ภัยต่าง ๆ เพื่อรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงเขตอากาศยานอุบัติเหตุและพร้อมปฏิบัติการดับเพลิงใช้ระยะเวลาไม่เกิน 3 นาทีตามมาตรฐาน ICAO ตลอด 24 ชั่วโมง
เรืออากาศตรี ธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า เพื่อรับมือกับสถานการณ์พายุโซนร้อนที่เกิดขึ้น ทภก. ได้มีการประสานงานกับหน่วยงานภายนอกเพื่อติดตามความคืบหน้า และรายงานให้ผู้บริหารจังหวัดและกระทรวงคมนาคมรับทราบตลอดเวลา โดยในส่วนของผู้โดยสารและผู้ใช้บริการนั้นขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางและควรเผื่อเวลาเดินทางมายัง ทภก. เพื่อป้องกันการตกเที่ยวบิน และหลีกเลี่ยงการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งหากผู้โดยสารและผู้ใช้บริการมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-7635-1122, 2302 และสายด่วน 1175
สำหรับ 'พายุปาบึก (PABUK) ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้า ๆ คาดว่าจะเคลื่อนลงอ่าวไทยในวันนี้ (3 ม.ค. 62) โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 มกราคม ทำให้จังหวัดภูเก็ตและบริเวณภาคใต้จะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ในขณะเดียวกัน สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ก็ได้ออกประกาศ เรื่องให้ระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 5 มกราคม เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากคาดว่าคลื่นในทะเลอันดามันจะสูงถึง 2-3 เมตร (อ่านเพิ่มเติม คลิก)