เดือนมีนาคมที่ผ่านมา พ.ต.อ. กัณต์ชวิศ โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ยืนยันกับผู้แทนมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย จากเหตุนายเอ (นามสมมุติ) ชายหนุ่มที่อาศัยอยู่ในจ.ภูเก็ตซึ่งได้นำแมวมาทิ้งที่บริเวณมูลนิธิฯ ถูกตัดสินว่ามีความผิดตามพรบ.คุ้มครองสัตว์ ได้ให้ปากคำรับสารภาพพร้อมเสียค่าเปรียบเทียบปรับแล้ว พร้อมฝากให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงร่วมกันเลี้ยงอย่างรับผิดชอบและไม่ทอดทิ้ง และไม่นำสัตว์ในบริเวณพักอาศัยไปทิ้งไว้จุดอื่น เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุและเป็นการทารุณกรรมสัตว์ซึ่งมีความผิดทางอาญา อาจส่งผลให้ต้องรับโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
เหตุเกิดวันที่ 3 ธันวาคม 2563 นายเอนำกล่องบรรจุแมวทั้ง 6 ตัวมาวางไว้ที่บริเวณมูลนิธิฯ พร้อมปิดฝาและนำแผ่นกระเบื้องมาทับไว้ โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้พบเห็นกล่องและเปิดดูในเช้าวันถัดมา พบแม่แมวและลูกแมวอีก 5 ตัว มีลักษณะอ่อนเพลีย ก่อนให้การช่วยเหลือ ล่าสุดแมวสุขภาพแข็งแรงดีและมีผู้รับอุปการะแล้ว
มูลนิธิฯ ได้แจ้งเหตุพร้อมหลักฐานจากกล้องวงจรปิดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจท่าฉัตรไชย ซึ่งสามารถสืบเบาะแสได้ ในที่สุดได้เชิญนายเอ (นามสมมุติ) มาให้ปากคำ ซึ่งเจ้าตัวได้จ่ายค่าเปรียบเทียบปรับจำนวนเงิน 1,000 บาท ตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 ในมาตรา 23 ห้ามปล่อย ละทิ้งสัตว์ให้พ้นความดูแลของตนเอง ยกเว้นการโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นดูแล
“คดีนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างว่าการทิ้งสัตว์นั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์มีเจ้าของหรือเป็นสัตว์ที่อยู่ในชุมชน หากประสบปัญหาไม่สามารถดูแลหรือมีภาระเกินกำลัง ควรติดต่อหน่วยงานช่วยเหลือสัตว์ที่เกี่ยวข้องหรือติดต่อมูลนิธิฯ ตนยินดีให้คำปรึกษาเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะการนำสุนัขและแมวมาทิ้งนั้นมีความผิดตามพรบ.คุ้มครองสัตว์ ซอยด๊อกในฐานะหน่วยงานที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือสุนัขและแมวจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายดังกล่าว” นายศักดาพล ทองจันทร์ ผู้จัดการฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ของมูลนิธิฯ กล่าว
