ชาวเลราไวย์ชนะ! ศาลยกฟ้องคดี หลักฐานมีพิรุธหลายอย่าง

เปรมกมล เกษรา

วันอังคาร ที่ 31 มกราคม 2560, เวลา 14:01 น.

ภาพโดย เปรมกมล เกษรา

ภาพโดย เปรมกมล เกษรา

วันนี้เวลา 10:00 น. ศาลจังหวัดภูเก็ตนัดฟังคำพิพากษาคดีที่ดินชาวเลราไวย์ ระหว่างนางบุญศรี ตันติวัฒนวัลลภ ผู้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายแอ่ว หาดทรายทอง นายวรณัน หาดทรายทอง นายบรรชา หาดทรายทอง และนายนิรันดร์ หยังปาน จำเลยในข้อหาบุกรุก ขับไล่

 
โดยในวันนี้ นายนิรันดร์ หยังปาน หนึ่งในจำเลยที่ถูกฟ้อง ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดภูเก็ต และมีชาวเลอีกจำนวนกว่า 100 ชีวิตมาร่วมให้กำลังใจ โดยนั่งปูเสื่อรออยู่สนามหญ้าหน้าอาคารศาล ส่วนทางด้านโจทก์และทนายฝ่ายโจทก์ไม่ได้ปรากฎตัวที่ศาลแต่อย่างใด
 
หลังจากการพิจารณาคดีเสร็จสิ้น นายนิรันดร์ได้เดินออกมานอกอาคารศาลและแจ้งให้ทุกคนทราบว่าศาลได้ตัดสินยกฟ้อง เนื่องจากในการวินิจฉัยนั้น ศาลได้พิจารณาในหลายประเด็นด้วยกัน โดยเฉพาะภาพถ่ายจากการเสด็จประพาสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อปี 2502 ยังพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเล โดยมีภาพของต้นมะพร้าวปรากฏอยู่ด้วย ซึ่งโจทย์แจ้งว่าต้นมะพร้าวมีอายุ 10 ปี  แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ พบว่าต้นมะพร้าวดังกล่าวมีอายุกว่า 30 ปี จึงเป็นข้อขัดแย้งและข้อพิรุธ ประกอบกับการพิจารณาของศาลพบว่า หลักฐานของโจทก์มีข้อพิรุธหลายอย่าง จึงพิจารณายกฟ้อง เพราะชาวเลเป็นผู้ถือผู้ใช้ประโยชน์ที่ดินซึ่งทางโจทก์ถือหลักฐานโฉนด จึงอนุญาตให้นายแอ่วและจำเลยอีก 3 คนใช้พื้นที่นี้ทำกินต่อไปได้ 
 
โดยนายแอ่ว ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังจากการฟังคำตัดสินแล้วว่า “ศาลมองภาพแล้วว่า วันนี้โจทก์มีพิรุธหลายอย่าง เช่นการไต่สวน จากการที่ในหลวงเสด็จประพาสเมื่อปี 2502 โจทก์ได้แจ้งว่าต้นมะพร้าวที่ทางโจทก์ได้ปลูกไว้นั้นมีอายุ 10 ปี แต่กองพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่าต้นมะพร้าวบนที่ดินดังกล่าวนั้นมีอายุมากกว่า 30 ปี เพราะฉะนั้นจึงมีพิรุธ ศาลจึงยกฟ้องให้ชาวเลเป็นผู้ถือการมีสิทธิ์ใช้ประโยชน์”
 
ทั้งนี้ชาวเลที่เดินทางมาให้กำลังต่างก็ร้องไห้ด้วยความปิติยินดีกับชัยชนะครั้งนี้ 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่