ชาร์จพลังเต็มก่อน ได้เปรียบ

Wired on Water - คุณกำลังคิดว่าจะเปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต หรือที่เรียกว่าแบตเตอรี่ LFP ในเรือหรือไม่? หากเป็นอย่างนั้น... นี่คือบางสิ่งที่คุณควรจะต้องรู้เอาไว้

บทความโฆษณา

วันอาทิตย์ ที่ 18 สิงหาคม 2562, เวลา 12:00 น.

ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (LiFePO4 หรือ LFP) ใช้ขบวนการทางเคมีที่ได้รับจากลิเธียมไอออน เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่เป็นที่นิยมและปลอดภัยที่สุด แรงดันไฟฟ้าเพียงเล็กน้อยของเซลล์ LFP มีขนาด 3.2 โวลต์ (กรดตะกั่ว: 2 โวลต์/เซลล์) แบตเตอรี่ LFP ขนาด 12.8 โวลต์ จึงประกอบด้วยเซลล์สี่เซลล์เชื่อมต่อกันเป็นอนุกรม และแบตเตอรี่ขนาด 25.6 โวลต์ ประกอบด้วยเซลล์แปดเซลล์ต่อกันเป็นอนุกรม

ทนทาน
แบตเตอรี่ตะกั่วกรดจะหมดอายุก่อนเวลาอันควร เนื่องจากการเกิดซัลเฟชั่น หรือการเกิดเกลือซัลเฟตในแบตเตอรี่ ในกรณีไม่เคยหรือแทบจะไม่ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มเลย หรือชาร์จตั้งไว้แค่บางส่วน หรือที่แย่กว่านั้นคือการไม่ชาร์จไฟเลยซึ่งเป็นการปล่อยประจุออกจนหมด

แต่สำหรับแบตเตอรี่ LFP ไม่จำเป็นต้องชาร์จให้เต็มก็ไม่มีปัญหา นี่เป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญของแบตเตอรี่ LFP เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ตะกั่วกรด และยังมีข้อดีอื่น ๆ ได้แก่ การมีช่วงการทำงานที่กว้างมากขึ้น ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการทำงานแต่ละรอบ ความต้านทานภายในต่ำและการมีประสิทธิภาพสูง แบตเตอรี่ LFP จึงเป็นตัวเลือกทางเคมีที่เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีความต้องการใช้สูง

มีประสิทธิภาพ
ในการใช้งานหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะบนเรือที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และ/หรือพลังงานลมแบบออฟกริด ประสิทธิภาพการใช้พลังงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง ประสิทธิภาพการใช้พลังงานแบตเตอรี่หนึ่งรอบ (คายประจุจาก 100% เป็น 0% และกลับสู่ค่าประจุ 100%) ของแบตเตอรี่ตะกั่วกรดเฉลี่ยคือ 80% ขณะที่ประสิทธิภาพการใช้พลังงานหนึ่งรอบของแบตเตอรี่ LFP คือ 92% อีกทั้งกระบวนการชาร์จของแบตเตอรี่ตะกั่วกรดจะไม่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหลือแบตเตอรี่อยู่ที่ 80% จะทำให้มีความจำเป็นต้องใช้ประสิทธิภาพแบตเตอรี่ 50% หรือน้อยกว่านั้นสำหรับระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งต้องใช้พลังงานสำรองสำหรับหลายวัน (แบตเตอรี่ทำงานที่สถานะ 70% ถึง 100%) ในทางตรงกันข้ามแบตเตอรี่ LFP จะยังคงประสิทธิภาพ 90% หากมีการปล่อยประจุทีละน้อย

ความยืดหยุ่นในการใช้งานไม่มีที่สิ้นสุด
การชาร์จแบตเตอรี่ LFP นั้นง่ายกว่าการชาร์จแบตเตอรี่ตะกั่วกรด แรงดันประจุอาจมีความแตกต่างตั้งแต่ 14 โวลต์ จนถึง 16 โวลต์ (ตราบใดที่ไม่มีเซลล์ใดที่ถูกควบคุมจนถึงมากกว่า 4.2 โวลต์) และแบตเตอรี่นี้ไม่จำเป็นต้องชาร์จจนเต็ม

ระยะการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
สิ่งที่ผู้คนมากมายยังไม่รู้ก็คือ แบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟตจะไม่หมดอายุการใช้งาน แม้จะมีการใช้งานถึง 2,000 รอบซึ่งแตกต่างจากแบตเตอรี่ตะกั่วกรด โดยอายุแบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟตที่ยาวนานนั้นเป็นดังนี้:
• การใช้งาน 2,000-2,500 รอบ - ประสิทธิภาพแบตเตอรี่จะลดลงเหลือ 80% จากเดิม (ใช้ได้สูงสุด 14 ปี คิดจากการใช้งานหนึ่งรอบทุก ๆ สองวัน)
• การใช้งาน 3,000 รอบ - ประสิทธิภาพแบตเตอรี่จะลดลงเหลือ 70% จากเดิม
• การใช้งาน 4,000-5,000 รอบ - ประสิทธิภาพแบตเตอรี่จะลดลงเป็น 60% จากเดิม (ใช้ได้สูงสุด 28 ปีคิดจากการใช้งานหนึ่งรอบทุก ๆ สองวัน)
• การใช้งาน 6,000-10,000 รอบ - ประสิทธิ
ภาพแบตเตอรี่จะลดลงเหลือ 50% จากเดิม (ผู้ผลิตยังไม่เคยลองทดสอบ)
คุณสามารถเพิ่มแบตเตอรี่ใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้เสมอ (ไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่เก่า)
ข้อดีอีกสองอย่างที่สำคัญก็คือขนาดและน้ำหนักของแบตเตอรี่ LFP ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 25% ของแบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบบมาตรฐาน และระบบชาร์จที่มีอยู่ส่วนใหญ่สามารถใช้งานได้ โดยปราศจากการเกิดการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะส่งผลกระทบใด ๆ ต่อการทำงาน

ข้อมูลที่สำคัญ:
1. เซลล์ LFP จะล้มเหลวหากแรงดันไฟฟ้าของเซลล์ลดเหลือน้อยกว่า 2.0 โวลต์
2. เซลล์ LFP จะล้มเหลวหากแรงดันไฟฟ้าของเซลล์เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 4.2 โวลต์
3. เซลล์ของแบตเตอรี่ LFP จะไม่ปรับสมดุลอัตโนมัติ เมื่อสิ้นสุดรอบของการชาร์จ
4. เซลล์ในแบตเตอรี่ LFP ไม่เหมือนกัน 100% ดังนั้นเมื่อมีการทำงานหนึ่งรอบ บางเซลล์จะถูกชาร์จให้เต็ม ขณะที่บางเซลล์จะคายประจุเร็วกว่าเซลล์อื่น ความแตกต่างนี้จะเพิ่มขึ้นหากเกิดกรณีที่เซลล์ไม่สมดุลหรือไม่เท่ากันในบางช่วงเวลา ในแบตเตอรี่ตะกั่วกรด กระแสไฟฟ้าขนาดเล็กจะยังคงไหลต่อไป แม้ว่าจะมีเซลล์หนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งเซลล์ถูกชาร์จให้เต็ม (ผลลัพธ์หลัก ๆ ของกระแสไฟฟ้านี้คือการสลายตัวของน้ำเป็นไฮโดรเจนและออกซิเจน) โดยกระแสไฟฟ้านี้จะช่วยชาร์จเซลล์อื่น ๆ ที่ประจุน้อยกว่าให้เต็มด้วย ดังนั้นจึงทำให้สถานะประจุของเซลล์ทั้งหมดนั้นเท่ากัน
กระแสไฟฟ้าจะผ่านเซลล์ LFP แต่เมื่อชาร์จจนเต็ม กระแสไฟฟ้าจะเกือบเป็นศูนย์ และเซลล์ที่ยังชาร์จไม่เต็มก็จะไม่ถูกชาร์จให้เต็มอีก เมื่อเวลาผ่านไปความแตกต่างระหว่างเซลล์อาจมากขึ้น และแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่โดยรวมก็มีขอบเขตที่จำกัด เซลล์บางส่วนอาจล้มเหลวเนื่องจากแรงดันไฟฟ้าสูงหรือต่ำเกิน ดังนั้นเราจึงแนะนำอย่างยิ่งให้ทำการปรับสมดุลเซลล์ คำเตือนที่สำคัญประการสุดท้ายที่ควรระวังไว้คือ แบตเตอรี่ LFP อาจเสียหายได้ หากปล่อยให้แบตเหลือต่ำเกินไป หรือชาร์จมากเกินไป

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Wired on Water นำเสนอโดย Octopus Electrical Service ตั้งอยู่ที่ ภูเก็ต โบ๊ท ลากูน กับประสบการณ์มากว่า 40 ปี ของการทำงานในอุตสาหกรรมการเดินเรือภายใต้เทคโนโลยีมารีนล้ำสมัย ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ Octopus Electrical Service ภูเก็ตโบ๊ทลากูน โทร/แฟ็กซ์: +66 (0) 76 600143 อีเมล: sales@octopusasia.com หรือเข้าเยี่ยมชมเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ www.octopusasia.com

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่