ชายเช็กผู้แพร่เชื้อเอดส์บินกลับประเทศแล้ววันนี้ พบคลิปจำนวนมาก

อึ้ง พบคลิปวิดีโอขณะร่วมเพศจำนวนมากโดยไม่สวมถุงยางอนามัย เจ้าตัวเผย อยากอยู่เอเชียต่อ ไม่อยากกลับประเทศ

เปรมกมล เกษรา

วันอังคาร ที่ 24 มกราคม 2560, เวลา 10:59 น.

ภาพโดย เปรมกมล เกษรา

ภาพโดย เปรมกมล เกษรา

วันนี้ (24 มกราคม 2560) ผู้สื่อข่าวข่าวภูเก็ตได้ติดตามความคืบหน้ากรณีผู้ต้องหาสัญชาติเช็กที่ถูกจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วข้อหาพำนักอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดและมีหมายจับสากลนั้น ทราบว่า นายฟายเฟอร์ ซเดเน็ค อายุ 49 ปี ได้ถูกนำตัวไปยังกรุงเทพมหานครเมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 มกราคม 2560 (หนึ่งวันหลังจากถูกปล่อยตัวจากศาลจังหวัดภูเก็ต) และได้บินกลับประเทศแล้วพร้อมเจ้าหน้าที่กงสุลจากสาธารณรัฐเช็กเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา โดยไม่มีการแถลงข่าวจากผบ.ตร.แต่อย่างใด

 
ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ผู้สื่อข่าวได้รับ พบว่าคดีนี้ ภายใต้การสั่งการพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา 10 รองหัวหน้าศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมชายผู้ต้องสงสัยตามหมายจับสากล ชื่อนายฟายเฟอร์ ซเดเน็ค สัญชาติเช็ก อายุ 49 ปี ในฐานะอาชญากรข้ามชาติ มีข้อมูลยืนยันว่านายฟายเฟอร์ก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กแล้วหลบหนีเข้ามาซ่อนตัวในเมืองไทย โดยก่อนหน้านี้มีข่าวลือแพร่หลายในอินเตอร์เน็ตว่านายฟายเฟอร์มีเชื้อ HIV และมีพฤติกรรมการแพร่เชื้อเอดส์ให้คนไทยแถบภาคเหนือ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมนายฟายเฟอร์ได้ที่บ้านพักบริเวณซอยบางเทา 9 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จ.ภูเก็ต ก่อนส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองควบคุมตัวและดำเนินคดีทางกฎหมาย โดยพบว่านายฟายเฟอร์ได้กระทำผิดข้อหาพำนักในราชอาณาจักรเกินกำหนดเป็นเวลา 504 วัน ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม - 17 มกราคม ศาลจังหวัดภูเก็ตได้ตัดสินโทษปรับเป็นเงิน 1,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายฟายเฟอร์ไปยังห้องสืบสวนของด่านตรวจคนเข้าเมืองจ.ภูเก็ต

จากการสอบถามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้น ผู้สื่อข่าวได้ทราบว่านายฟายเฟอร์ ซเดเน็ค มีพฤติกรรมการแพร่เชื้อเอดส์จริง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจพบยาต้านโรคเอดส์จากการตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องหาและยังพบคลิปวิดีโอจำนวนมากในคอมพิวเตอร์โน้ตบุคของผู้ต้องหาซึ่งเป็นการถ่ายวิดีโอการร่วมเพศกับทั้งหญิงและชายโดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัยแต่อย่างใด และจากการพูดคุยระหว่างผู้สื่อข่าวกับผู้ต้องหาโดยตรง ผู้ต้องหาได้ยอมรับกับผู้สื่อข่าวข่าวภูเก็ตว่า “ครับ ผมเป็นเอดส์ และมันเป็นตราบาปในชีวิตผม” ("Yes, I have it. It’s my stigma.”) 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่