ภายหลังจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าว ก็ได้มีการเปิดเผยถึงตัวผู้ก่อเหตุคือ นาย Brenton Tarrant อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นชายผิวขาวชาวออสเตรเลีย ผู้มีแนวคิดขวาจัดเหยียดผิว รวมถึงต่อต้านผู้อพยพ ที่ได้ทำการไลฟ์สดเป็นเวลากว่า 17 นาที ในขณะที่เขาเองได้ก่อเหตุเดินเข้าไปกราดยิงภายในมัสยิด Al Noor บนถนน Deans Avenue
โพสต์ทูเดย์รายงานว่า ภายในรถของนายเบรนตันมีอาวุธและกระสุนเป็นจำนวนมาก บริเวณเบาะที่นั่งด้านหน้าติดคนขับ จากนั้นเขาเดินถืออาวุธปืนแล้วเดินเข้าไปในมัสยิดซึ่งมีผู้คนจำนวนมากกำลังสวดมนต์อยู่ ก่อนจะเปิดฉากยิงกราดแบบไร้ความปรานี จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินออกจากมัสยิดผ่านประตูหน้า และเดินออกไปที่ถนน จากนั้นก็ได้เปิดฉากกราดยิงรถยนต์ที่วิ่งผ่านในบริเวณนั้นอีกครั้งอย่างไม่เลือกหน้า ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในมัสยิดอีกครั้ง พร้อมกับบรรจุกระสุนเพิ่มและเดินเข้าไปในมัสยิด เพื่อตรวจดูว่าภายในมัสยิดยังมีใครเหลือรอดชีวิตอยู่หรือไม่ ภาพที่ปรากฏคิดภายในมัสยิดเต็มไปด้วยสีแดงของเลือดเหยื่อกราดยิงเลือดเย็นในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกคำแนะนำให้ประชาชนอย่าส่งต่อคลิปดังกล่าว (อ่านโพสต์ทูเดย์ คลิก)
มัสยิดแห่งที่สองคือ มัสยิด Linwood บนถนน Linwood Avenue เจ้าหน้าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ยังคงร้องขอให้ประชาชนอยู่แต่ในอาคารบ้านเรือน รวมถึงวสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งในเมืองเพื่อความปลอดภัย และเรียกร้องให้ชาวมุสลิมในนิวซีแลนด์งดการทำพิธีทางศาสนาที่มัสยิดชั่วคราว ห้างสรรพสินค้าและธุรกิจการบริการหลายแห่งปิดทำการเพื่อความปลอดภัย
ด้าน 9 News สื่อท้องถิ่นประเทศออสเตรเลีย รายงานความรู้สึกของหนึ่งในผู้รอดชีวิต ซึ่งชายคนดังกล่าวได้กล่าวว่า “เลือดของเหยื่อรายอื่น ๆ กระเด็นมาโดนตัวผม ผมได้แต่บอกกับตัวเองว่า พระเจ้า! รายต่อเป็นต้องเป็นเราแน่ ๆ แต่โชคดีที่ผมรอดชีวตมาได้ และผมก็ได้ขอพรกับพระเจ้าว่าขอให้กระสุนของเขาหมดลงไปเสียที”
และเมื่อเขาเดินออกมาที่ถนนหลังการกราดยิงรอบแรก เขากราดยิงผู้คนผ่านไปผ่านมาบนถนน ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งกล่าวว่า “ผมได้ยินเสียคนกรีดร้อง เสีงยงคนร้องไห้และเห็นคนที่ล้มตัวลงไป”
9 News ได้เปิดเผยภาพของคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งที่กำลังอยู่ในอาการเศร้าสลด ภายหลังจากที่ทั้งคู่ส่งลูกชายไว้ที่มัสยิด จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของลูกชายเลย โดยผู้เป็นแม่กล่าวกับ 9 News ว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำมากมาก”
ภายหลังเหตุการณ์สุดเลวร้าย นายกหญิงของนิวซีแลนด์ นางจาร์ซินดา อาร์เดิน ได้ออกแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยรายงานผู้เสียชีวิตในเบื้องต้น 40 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 20 ราย ซึ่งเธอได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ่ง พร้อมระบุว่า วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ถือว่ามืดมนที่สุดของนิวซีแลนด์ เหตุการณ์เลวร้ายนี้เกิดขึ้นกับผู้อพยพ ผู้ซึ่งได้เลือกนิวซีแลนด์เป็นบ้านของพวกเขา และนี่คือบ้านของพวกเขา ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกับเรา ขณะที่นายไมค์ บุช ผู้บัญชาการตำรวจนิวซีแลนด์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุแล้ว 4 ราย จำนวนนี้เป็นชาย 3 ราย หญิง 1ราย โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ทำได้ เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดในบริเวณดังกล่าว
ล่าสุดโพสต์ทูเดย์รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 49 ราย ขณะที่ยังมีผู้บาดเจ็บอีกหลายสิบคน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 20 ราย