จากกรณี เมื่อเวลา 13.30น. วันนี้ 20 เม.ย.68นายจตุโชค ฑีนฤทธิ์ อายุ 59 ปี ชาวภูเก็ตโดนแทงนอนสลบมีบาดแผลบริเวณท้องเลือดออก อยู่บริเวณใกล้ร้านขายของชำภายในซอยโหนทรายทอง หมู่ที่ 3 ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลรัษฎา พร้อมด้วยหน่วย อีเอ็มเอสแอดวานซ์ ได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่งรพ.อบจ.แล้ว หลังจาก จนท.ได้ช่วยเหลือ โดยการทำซีพีอาร์ และเนื่องจากอาการสาหัสไม่รู้สึกตัวโดนแทงเข้าที่ใต้ราวนมขวาและได้เสียชีวิต ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด และติดตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
จากนั้นในช่วงเย็นของวันเดียวกัน (20 เม.ย.68) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายขับไปก่อเหตุเป็นรถจักรยานยนต์สกูปปี้สีขาว-แดง ทะเบียนภูเก็ต ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายมอส (นามสมมติ) อายุ 19 ปี จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรรถวัฒน์ สุวรรณรัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ต.กันต์ อักษรทอง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ได้เดินทางไปรับมอบตัวที่ซอย 7 โหนทรายทอง ต.รัษฎา ก่อนนำตัวมายัง สภ.เมืองภูเก็ต
สำหรับสาเหตุทราบว่า นายจตุโชคผู้เสียชีวิตเวลาเมาสุราชอบไปด่าที่ร้านขายน้ำของพี่สาวนายมอส โดยในวันเกิดเหตุพี่สาวนายมอสได้โทรบอกว่านายจตุโชคคนตายได้มาด่าอีก จึงโทรตามนายมอสมาหาที่ร้านระหว่างที่ผู้ตายเดินริมถนนได้พบกับนายมอสทำให้มีปากเสียงกันและได้ใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ครั้ง ก่อนขอเข้ามอบตัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผู้สื่อข่าวสอบถามด้าน นางสาวแอน (นามสมมติ) อายุ 20 ปี พี่สาวของผู้ต้องหาเปิดใจกับ ผู้สื่อข่าวว่า ก่อนที่น้องชายเธอจะก่อเหตุเธอกำลังจะปิดร้านน้ำหวานเพราะเธอทำงานที่นั่น ตอนนั้นผู้ตายเดินมาเอะอะโวยวายหน้าร้าน สังเกตในมือมีอาวุธคล้ายเหล็กอะไรสักอย่าง ซึ่งเธอก็ไม่ได้สังเกตมากนัก ด้วยความกลัวเลยนั่งลงหลบมุมอยู่กับพื้น เพราะลุงเอะอะโวยวายเสียงดัง แล้วในมือมีลักษณะใช้เหล็ก 2 ท่อนลับคมเหมือนใช้เหล็ก 2 ท่อนเสียดสีกัน เธอกลัวมากจนร้องไห้ เพราะลุงคนตายโวยวาย เดินอ้อมมาด้านหลังร้าน คล้าย ๆ จะพยายามเข้ามาในร้าน เดินข้ามถนนไปแล้วก็วกกลับมาอีก ตอนนั้นเธออยู่คนเดียวด้วย ตัวสั่นไปหมดหวาดกลัว โทรหาน้องชายให้รีบมาช่วยเพราะเสียงโวยวายจองลุงเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ บวกกับเสียงคล้าย ๆ กับมีอาการคลุ้มคลั่ง ทำให้เธอหวาดกลัว เมื่อน้องชายมาถึงก็ไม่พบกับลุงแต่น้องชายบอกว่าจะกลับเข้าบ้านซึ่งก็ไม่รู้ว่าน้องไปเจอกับลุงตอนไหนจนเกิดเหตุสลดขึ้น
เธอขอโทษครอบครัวผู้ตายทั้งน้ำตาพร้อมบอกว่า น้องชายเธอทำไปเพราะขาดสติ และโมโหที่พี่สาวเกือบถูกรังแก เหตุเพราะน้องชายรักเธอมากกลัวเธอโดนรังแก เธอไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น วอนสังคมเข้าใจเหตุผลที่น้องชายทำ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษทั้งน้ำตา
