forex คือ การซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงิน เพราะฉะนั้นหากเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ต้องการทำกำไรจากความสัมพันธ์เหล่านี้จึงมีความจำเป็นต้องทำการซื้อขายในช่วงเวลาที่เหมาะสม การตระหนักถึงความสัมพันธ์ การติดตามและจังหวะเวลาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการประสบความสำเร็จ
การตัดสินใจเลือกความสัมพันธ์ของสกุลเงินและสินค้าโภคภัณฑ์ที่จะซื้อขาย
นอกจากความสัมพันธ์ของสกุลเงินกับสินค้าโภคภัณฑ์แล้ว เทรดเดอร์จำเป็นต้องคำนึงถึงค่าคอมมิชชั่นและสเปรด ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม สภาพคล่อง และการเข้าถึงข้อมูลด้วย สกุลเงินและสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายกันหนาแน่นจะสามารถค้นหาข้อมูลได้ง่ายกว่า ตัวอย่างเช่น
แคนาดาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ ดังนั้นเศรษฐกิจของประเทศจึงได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันและปริมาณที่สามารถส่งออกได้ ญี่ปุ่นเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ ดังนั้นราคาน้ำมันและปริมาณที่ต้องนำเข้าจึงส่งผลต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น เนื่องจากน้ำมันมีผลกระทบหลักต่อแคนาดาและญี่ปุ่น CAD/JPY จึงมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับราคาน้ำมัน คู่นี้สามารถตรวจสอบได้เช่นเดียวกับ USD/CAD ข้อเสียคือโดยทั่วไปแล้ว CAD/JPY มีสเปรดที่สูงกว่าและมีสภาพคล่องน้อยกว่า USD/CAD เนื่องจากน้ำมันมีราคาเป็นดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก เงินดอลลาร์ที่ผันผวนจึงส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน (และในทางกลับกัน) เทรดเดอร์จึงสามารถจับตาดู USD/CAD เพื่อทำการซื้อขายได้ตามความเกี่ยวข้องกับราคาน้ำมัน เนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นผู้นำเข้าและส่งออกน้ำมันรายใหญ่
ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ของโลก ส่งผลให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากราคาทองคำและปริมาณที่สามารถส่งออกได้ นิวซีแลนด์เป็นคู่ค้ารายใหญ่กับออสเตรเลีย จึงมีความเสี่ยงสูงต่อความผันผวนในเศรษฐกิจของออสเตรเลีย ซึ่งหมายความว่านิวซีแลนด์ได้รับผลกระทบอย่างมากจากความสัมพันธ์ของออสเตรเลียกับทองคำ ในปี 2008 ออสเตรเลียเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่อันดับสี่ของโลก ในปี 2009 สหรัฐอเมริกาเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่อันดับสาม ดังนั้น AUD/USD และ NZD/USD จึงเหมาะสำหรับการซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับราคาทองคำ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างสกุลเงินและสินค้าโภคภัณฑ์นั้นไม่มีความแน่นอน เทรดเดอร์จึงต้องระมัดระวังในการติดตามความสัมพันธ์เพื่อหาโอกาสและควรวิเคราะห์ร่วมกับการใช้ตัวบ่งชี้ความสัมพันธ์หรือแผนภูมิการตรวจสอบก่อนตัดสินใจทำการซื้อขาย