โอกาสนี้รองนายกรัฐมนตรีได้ติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออก เรือประมง เขต 3 (ภูเก็ต) และงานที่เกี่ยวข้องที่ปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจเรือประมงให้มีการดำเนินการให้ถูกตามกฎหมาย พร้อมทั้งได้ลงเรือประมงเพื่อไปตรวจสอบ ด้วยตนเองอย่างใกล้ชิดด้วย
พลเอก ฉัตรชัย กล่าวว่าการเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อเดินทางมาดูให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการตรวจเรือประมง อยากให้ทุกภาคส่วนได้พูดคุยบอกเล่าปัญหาอุปสรรคร่วมกัน เพราะอยากเห็นการทำงานมีประสิทธิภาพเนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดเป้าหมายที่คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป(EU) จะเดินทางมาติดตามตรวจสอบความ คืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของจังหวัดภูเก็ตในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกันพัฒนาตรวจสอบกระบวนการทำประมงให้มีความถูกต้องครบถ้วนมีประสิทธิภาพ 100%
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจตราเรือประมงอย่างต่อเนื่อง ตามโครงการบูรณาการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านการประมงทะเล (อ่านเพิ่มเติม คลิก) โดยไม่พบการกระทำผิด IUU ล่าสุดเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้มีการตรวจแรงงานเรือประมงทะเล 3 ลำ 96 คน โดยมีเรือตรวจจากศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเขต 3 กระบี่มาร่วมด้วย และไม่พบการกระทำผิดกฎหมาย IUU (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ทีมงานจะต้องรู้กระบวนการปฏิบัติงานชัดเจนละเอียดและถูกต้อง โดยเฉพาะในส่วนของข้อมูลเชิงลึกของเรือที่จะเทียบท่าเข้ามา ต้องทำการตรวจเวลาการแจ้งเข้าเวลาการแจ้งออกของเรือ จำนวนลูกเรือประมงแรงงานในเรือประมง และตรวจสอบค่าจ้างที่แรงงานจะได้รับ โดยนำระเบียบทางกฎหมายมาใช้ในการดำเนินการ ให้การทำประมงของประเทศไทยถูกกฎหมายควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม คือการร่วมกันฟื้นฟูทรัพยากรประมงทะเลให้ฟื้นกลับคืนมาสมบูรณ์ เพื่อให้อาชีพประมงและการทำประมงไทยมีความยั่งยืน
ผลจากการเดินทางในมาในวันนี้ พลเอก ฉัตรชัย ได้แสดงความชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วยความตั้งใจ รู้จักทำงานเป็นทีมบูรณาการร่วมกันได้เป็นอย่างดี
แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต