โดยแถลงการณ์คัดค้านร่างพระราชบัญญัติการประกอบการธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร และร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม มีใจคววามว่า พวกข้าพเจ้าในฐานะพลเมือง ผู้ประกอบการท้องถิ่น ผู้รักในเมืองภูเก็ต และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต ขอแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในการคัดค้านการผลักดันร่างพระราชบัญญัติการประกอบการธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (คาสิโน) ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ด้วยเหตุผลสําคัญดังต่อไปนี้
1. บั่นทอนภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวคุณภาพ ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ที่มีชื่อเสียงด้านธรรมชาติ วัฒนธรรม และความเป็นมิตรของผู้คน การนํากาสิโนเข้ามาจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเมืองจาก “จุดหมายปลายทางเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ” ไปเป็น “แหล่งอบายมุข” ซึ่งอาจลดความน่าสนใจของนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว กลุ่มสุขภาพ และนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่เป็นเป้าหมายหลักของภูเก็ตในระยะยาว
2. เพิ่มปัญหาอาชญากรรมและสังคมในพื้นที่ธุรกิจกาสิโนมักเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม เช่น การฟอกเงิน แรงงานผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งจะซ้ำเติมปัญหาสังคมในจังหวัดที่มีโครงสร้างสังคมเปราะบาง และเพิ่มภาระต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทั้งตํารวจ หน่วยงานท้องถิ่น และองค์กรสาธารณะ
3. กระทบต่อคุณภาพชีวิตของชาวภูเก็ต ตั้งกาสิโนอาจกระตุ้นให้เกิดการเสพติดการพนัน หนี้สิน ความรุนแรงในครอบครัว และปัญหาสุขภาพจิตในชุมชนท้องถิ่นโดยตรง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและแรงงานที่เปราะบาง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของครอบครัวและสังคมในระยะยาว
4. การกระจุกตัวของผลประโยชน์ในกลุ่มทุน รายได้จากธุรกิจกาสิโนมักไม่กระจายสู่ประชาชนอย่างแท้จริง แต่กลับตกอยู่ในมือของกลุ่มทุน รายใหญ่ซึ่งสวนทางกับแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจแบบยั่งยืนที่เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และการสร้างรายได้ให้ประชาชนท้องถิ่นอย่างทั่วถึง
5. ทําลายแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของภูเก็ต ภูเก็ตได้กําหนดทิศทางการพัฒนาสู่ “เมืองสุขภาพและการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน” (Smart City / Wellness Destination) การผลักดันกาสิโนสวนทางกับนโยบายนี้โดยตรง และเสี่ยงทําให้แผนพัฒนาในภาพใหญ่สูญเปล่า ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพนักท่องเที่ยว
6. ขาดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนภูเก็ต จนถึงปัจจุบันยังไม่มีเวทีที่เปิดโอกาสให้ประชาชนในจังหวัดภูเก็ตมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการแสดงความเห็นต่อร่างกฎหมายนี้ การกําหนดนโยบายที่กระทบต่ออนาคตจังหวัด ไม่ควรทําโดยปราศจากการมีส่วนร่วมของประชาชนเจ้าของพื้นที่
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หยุดการผลักดันร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และหันมาให้ความสําคัญกับการส่งเสริมเศรษฐกิจที่สร้างสรรค เป็นธรรม และยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของภูเก็ตในฐานะเมืองท่องเที่ยวคุณภาพระดับโลก