พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เปิดเผยในการแถลงข่าวการจับกุม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (5 มี.ค.) ว่า นายอเล็กซี โดลเซนคอฟ อายุ 35 ปี สัญชาติรัสเซีย ถูกจับกุมตัวที่ภูเก็ตเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (27 ก.พ.) ตามหมายจับของตำรวจสากล ซึ่งหมายแดงระบุว่า นายอเล็กซีกระทำความผิดฐานดำเนินการทำธุรกรรมการเงินผิดกฎหมาย หรือ “illegal banking activity” The Phuket News รายงาน (ดูหมายแดง คลิก)
“สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ประจำสถานทูตรัสเซีย ว่ามีบุคคลสัญชาติรัสเซีย เป็นบุคคลตามหมายจับของทางการรัสเซีย ปัจจุบันคนร้ายอาศัยอยู่ในประเทศไทย จึงได้จัดชุดสืบสวนติดตามตัวคนร้าย” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว
โดยมี พ.ต.อ.ประวิทย์ ศิริธร ผกก.2 บก.สส.สตม. นำสืบสวนร่วมกับ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ติดตามและจับกุมตัวคนร้ายคือ นายอเล็กซีตามหมายจับ ในความผิดฐานทำธุรกรรมทางการเงินผิดกฎหมาย ในฐานะเป็นหัวหน้าแก๊ง สร้างความเสียหายในระบบธุรกิจของรัสเซียเป็นมูลค่าถึง 485 ล้านรูเบิล หรือประมาณ 235 ล้านบาท
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า นายอเล็กซีหลบหนีกบดานเป็นเวลาถึง 4 ปี หลังจากมีการออกหมายจับในรัสเซียเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2558 นายอเล็กซี มีพฤติกรรมเป็นนายหน้าตัวแทนช่วยเหลือบริษัทต่าง ๆ เกี่ยวกับธุรกรรมการเงินที่ผิดกฎหมาย ทำงานในฐานะโบรกเกอร์โดยผิดกฎหมาย
เว็บไซต์ภาษารัสเซีย Pattayapeople.ru รายงานว่า “ ในรัสเซียนายอเล็กซีเป็นผู้นำของกลุ่มอาชญากร ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ธุรกิจต่าง ๆ ที่มีการดำเนินงานทางการเงินผิดกฎหมาย รวมถึงการหลีกเลี่ยงภาษี การปลอมแปลงหลักฐานทางการเงินในบัญชีธนาคาร และอื่น ๆ สร้างมูลค่าความเสียหายในระบบธุรกิจของสหพันธรัฐรัสเซียสูงถึง 485 ล้านรูเบิล หรือประมาณ 235 ล้านบาท (คลิก)
“นายอเล็กซีรับสารภาพว่า ทันทีที่รู้ว่าทางการรัสเซียรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับในปี 2558 เขาก็หลบหนีมายังประเทศไทยด้วยวีซ่าท่องเที่ยว และอาศัยอยู่ในประเทศไทย เพื่อหลบซ่อนตัวมานานกว่า 4 ปี กระทั่งเขาถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว
ผบช.สตม. ยืนยันว่า ล่าสุดทางการไทยได้เพิกถอนการอนุญาตพำนักในประเทศไทยของนายอเล็กซีแล้ว และเนื่องจากเป็นบุคคลต่างด้าวมีหมายจับของรัฐบาลต่างประเทศ ก็จะดำเนินการผลักดันออกนอกประเทศตามขั้นตอนต่อไป