ทภก.ชี้แจงความเสียหายจากสภาพอากาศและปริมาณฝนที่มาก ซึ่งเกิดจากการฝนตกต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานกว่า 3 ชั่วโมงในหลายพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต โดยวัดปริมาณน้ำฝนได้ 136.8 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ ณ ทภก. ทำให้อากาศยานไม่สามารถทำการลงจอด ณ ทภก. ได้จำนวน 11 เที่ยวบิน แบ่งเป็น
- บินวนรอสภาพอากาศจำนวน 5 เที่ยวบิน
- Divert ไปท่าอากาศยานกระบี่ จำนวน 2 เที่ยวบิน
- Divert ไปท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี 2 เที่ยวบิน
- Divert ไปท่าอากาศยานหาดใหญ่ 1 เที่ยวบิน
- Divert ไปท่าอากาศยานสมุย 1 เที่ยวบิน
นอกจากนี้ ปริมาณน้ำฝนจำนวนมากล้นรางระบายน้ำ ปริมาณน้ำฝนบางส่วนที่ไม่สามารถระบายได้ทันไหลซึมเข้าไปยังพื้นที่ให้บริการภายในอาคารผู้โดยสารทั้ง 2 หลังส่งผลกระทบต่อการบริการบางส่วนที่จำเป็นจะต้องระบายน้ำทีซึมเข้ามาและทำความสะอาดพื้นที่ จากการตรวจสอบพบความเสียหายบริเวณต่าง ๆ คือ บริเวณจุดตรวจค้นสัมภาระติดตัว, ประตูทางออกขึ้นเครื่อง Bus gate 81-82 และบริเวณสำนักงานสายการบิน ชั้น 3
รวมถึงเหตุการณ์ที่มีผู้ถ่ายคลิปวิดีโอและแชร์ในโลกโซเชียลปรากฏเป็นน้ำพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินและท่วมขังบริเวณสนามหญ้าเทียม ชั้น 1 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
ทภก.ชี้แจงว่า “จากการตรวจสอบพบว่าจากปริมาณน้ำฝนจำนวนมากส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณดาดฟ้า ท่อระบายน้ำไม่สามารถระบายน้ำที่ท่วมขังเป็นจำนวนมากได้ทัน และจากการที่ปริมาณน้ำจำนวนมากไหลลงมาจากที่สูงเป็นผลให้เกิดแรงดันภายในท่อจนน้ำไหลย้อนกลับไปยังท่อที่ทำหน้าที่เป็นจุดระบายความดันอากาศจนดันฝาท่อหลุดและน้ำพุ่งขึ้นมาจากท่อท่วมขังบริเวณดังกล่าว”
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ ทภก.ได้เข้าพื้นที่เพื่อเร่งซ่อมแซม แก้ไขปัญหา และทำความสะอาดพื้นที่โดยเร็วที่สุดแล้ว และใคร่ขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นมา ณ โอกาสนี้
