ปัดข่าวรื้อถอนพระใหญ่ เบื้องต้นเน้นรื้อถอนสิ่งก่อสร้างนอกเขตพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต

ภูเก็ต - นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยกับ The Phuket News ถึงกรณีการตรวจสอบและดำเนินคดีกับมูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคลศรัทธา ๔๕ ว่าจะถึงขั้นรื้อถอนองค์พระใหญ่หรือไม่อย่างไร โดยรองอธิบดีกรมป่าไม้อธิบายว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในขณะนี้ไม่ได้หมายความว่าจะมีการรื้อถอนองค์พระใหญ่ แต่หมายถึงสิ่งก่อสร้างที่เกินกว่า 15 ไร่

ณัฏฐ์นรี ลิขิตวัฒนสกุล

วันเสาร์ ที่ 28 กันยายน 2567, เวลา 09:00 น.

ที่ได้ขออนุญาตจะต้องถูกยกเลิก โดยเอกสารขอ 15 ไร่ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 มูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคล ๔๕ ได้ดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างอาคารบริเวณองค์พระใหญ่ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2521 และกฎกระทรวง ฉบับที่ 10 พ.ศ. 2532

ทางมูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคลศรัทธา ๔๕ ได้ยื่นหนังสือขอใช้พื้นที่ป่าและหนังสือขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีต่อกรมป่าไม้ประมาณปลายปี 2566 ในส่วนพื้นที่ที่เกิน 15 ไร่ กรมป่าไม้ได้ขอให้มูลนิธิฯ ยื่นหนังสือขอผ่อนผันพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 ต่อคณะรัฐมนตรีก่อน และเมื่อได้รับอนุมัติแล้ว ทางกรมป่าไม้จะพิจารณาใหม่อีกครั้งในเรื่องรื้อถอน ขณะนี้กรมป่าไม้อยู่ระหว่างรอคณะรัฐมนตรีลงมติผ่อนผันพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1

อีกขั้นตอนหนึ่งที่ทางกรมป่าไม้ดำเนินการไปแล้วก็คือในส่วนของการก่อสร้างนอกพื้นที่ 15 ไร่นั้น กรมป่าไม้ได้ส่งหนังสือไปยังวัดกะตะและมูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคล ๔๕ แล้ว โดยหนังสือแจ้งรายละเอียดการยกเลิกโครงการทั้งหมดที่เคยทำกับที่กรมป่าไม้ภูเก็ตเห็นชอบหรืออนุญาตตั้งแต่ปี 2545 จะต้องยุติลง และไม่สามารถขอต่ออายุสัญญาใด ๆ ได้อีกต่อไป นอกจากนี้ พื้นที่ที่มีการก่อสร้างนอกเขต 15 ไร่ จะต้องปิดไม่ให้ใครเข้ามาใช้หรือทำกิจกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งจะต้องทำการปิดตามคำสั่งของกรมป่าไม้

“หลังจากที่ทีมงานกรมป่าไม้หารือกับตำรวจภูธรกะรนแล้ว เราจึงมอบหมายหน้าที่ให้ตำรวจดำเนินการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมและส่งหมายเรียกประธานมูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคลเพื่อดำเนินคดีกรณีบุกรุกป่านาคเกิด” นายบรรณรักษ์ กล่าว

ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน ได้แจ้งข้อกล่าวหา ประธานมูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคลศรัทธา ๔๕ แต่เจ้าตัวให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

พ.ต.ท.เอกศักดิ์ ขวัญหวาน สว. (สอบสวน) สภ.กะรน จ.ภูเก็ต แจ้งข้อหา มูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคลศรัทธา ๔๕ โดยนายสุพร วนิชกุล ประธานมูลนิธิ ในฐานะนิติบุคคล และนายสุพร วนิชกุล ในฐานะส่วนตัว โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเอง หรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, ผู้ใดกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใด โดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลาย หรือเป็นเหตุให้เกิดการทำลาย หรือทำให้สูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากร

ธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น การบุกรุกพื้นที่ป่าซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน ผู้กระทำผิดต้องชดใช้ให้รัฐเท่ากับจำนวนพื้นที่ที่ถูกบุกรุก ตามที่คิดคำนวณค่าเสียหายของรัฐทั้งหมด ของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหาย” ซึ่งในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

อย่างไรก็ตาม กรมป่าไม้อนุญาตให้หน่วยงานของรัฐใช้พื้นที่ป่านาคเกิดเพื่อดำเนินการเบี่ยงทางน้ำก่อน เพื่อแก้ไขปัญหาดินถล่มและเพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น

HeadStart International School Phuket

“ช่วงนี้ยังคงมีฝนตกหนักและมีโอกาสเกิดภัยพิบัติได้ กรมป่าไม้จึงได้ขอให้ทางราชการไม่ว่าจะเป็นตำรวจภูธรกะรน เทศบาลเมืองกะรน และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้ความร่วมมือปิดกั้น ไม่ให้ผู้ใดขึ้นไปชมพระใหญ่ นอกจากนี้ กรมป่าไม้ กรมโยธาธิการภูเก็ต และทีมงานเทศบาลเมืองกะรน ได้เบี่ยงทางน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้หินและของแข็งตกลงไปในลักษณะเดียวกัน” นายบรรณรักษ์ กล่าว

“จริง ๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจจะรื้อถอนทั้งหมด เเต่แค่ในบริเวณ 5 ไร่เท่านั้นที่ใช้มากกว่าที่ตกลงกันไว้ และหากตำรวจพบหลักฐานเพิ่มเติม และหากศาลตัดสินว่ามีความผิดและสั่งลงโทษ เราก็จะทำการรื้อถอน ถ้าไม่รื้อถอนกรมป่าไม้มีสิทธิยึดพื้นที่ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ได้ โดยศาลสามารถสั่งให้รื้อถอนสิ่งก่อสร้างที่จอดรถและสิ่งก่อสร้าง 6 แห่ง คือ อาคารอเนกประสงค์ ห้องน้ำ หอติดตั้งถังเก็บน้ำ อาคารควบคุมระบบน้ำ ศาลาพักผู้โดยสารและที่พักอาศัย” นายบรรณรักษ์ อธิบาย

“อย่างไรก็ตาม หากศาลเห็นว่าจำเป็นต้องรื้อถอนสิ่งก่อสร้างทั้งหมด ก็ต้องรื้อถอนสิ่งก่อสร้างทั้งหมดตรงนั้น แต่ตอนนี้แน่ใจเพียงว่า 5 ไร่มีหลักฐานที่จะรื้อถอนได้ แต่บอกไม่ได้ว่าส่วนอื่นจะต้องรื้อถอนหรือไม่ ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับหลักฐานและคำพิพากษาของศาลด้วย”

“ในส่วนหน้าที่การส่งหนังสือมีกระบวนการอะไรเพิ่มเติมจากกรมป่าไม้หรือไม่ และสำหรับพระใหญ่จะเห็นได้ชัดว่าต้องรื้อถอนหรือไม่ ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอย่างไร เอกสารที่มูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคล ๔๕ ก็ทำงานเพื่อขออนุญาต หรือขอผ่อนผันโครงสร้างพระใหญ่จากคณะรัฐมนตรี หากคณะรัฐมนตรีอนุมัติผ่อนผัน โอกาสรื้อถอนจะน้อยลง แต่หากศาลพบหลักฐานมากกว่านี้และผ่อนผันไม่ได้ ก็เป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้ที่จะรื้อถอน” นายบรรณรักษ์ อธิบาย

“เหตุผลที่พระใหญ่จะรื้อถอนหรือไม่ขึ้นอยู่กับหลักฐาน 2 ประการ ประการแรกคือ ทำอย่างไรจึงจะแน่ใจได้ว่าการก่อสร้างพระใหญ่ ไม่ใช่สาเหตุของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หากสามารถอธิบายได้ว่าทำไมการก่อสร้างไม่ใช่สาเหตุเดียว ศาลก็จะพิจารณา ประการที่สองคือ มาตรการป้องกัน หากมาตรการป้องกันได้โดยไม่ต้องรื้อถอนองค์พระ และมั่นใจได้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่ออนาคต ก็อาจจะสามารถผ่อนผันได้”

“ข้อร้องเรียนเดียวที่ทางกรมป่าไม้ได้รับจนถึงขณะนี้คือชาวบ้านให้ตรวจสอบการก่อสร้างพระใหญ่ ซึ่งเราได้ตรวจสอบและแจ้งตำรวจแล้ว จากนี้ไปเราจะดำเนินการให้มั่นใจว่าโครงการที่เกี่ยวข้องใด ๆ ที่เราตกลงกันไว้ในอดีตจะหยุดลง และเราจะประชุมหารือเพื่อหาแนวทางป้องกันอันตรายจากดินถล่ม เราให้ความร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นในการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย บรรเทาสาธารณภัย ช่วยเหลือชาวบ้าน และป้องกันไม่ให้ภัยในอนาคตเกิดขึ้นอีก หากถามว่าผู้รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวนี้ต้องเป็นใคร หากว่าไปตามกฎหมายแล้วใครเป็นผู้ก่อปัญหาก็ต้องรับผิดชอบ แต่เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจภูธรกะรนที่ต้องสืบสวนก่อน โดยทำงานร่วมกับวิศวกรเพื่อตรวจสอบและหาสาเหตุให้แน่ชัด และหากผลการตรวจสอบชี้ไปที่ พระพุทธมิ่งมงคล ๔๕ แล้วพบว่ามีความผิดจริง ก็ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายและค่าชดใช้ความเสียหายทั้งหมด ซึ่งขณะนี้กระบวนการสอบสวนของตำรวจภูธรกะรนอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยมี พล.ต.ท.สุรพงศ์ ถนอมจิตต์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 8 เร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาและให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชนทุกคน” นายบรรณรักษ์ กล่าว

“ขอฝากบอกทุกคนและขอความร่วมมือทุกท่านที่จะไปวัดพระใหญ่หรือหากใครเข้าไปในเขตที่เราขอปิดเพื่อสอบสวนจะถือว่าฝ่าฝืน พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เนื่องจากยานพาหนะและรถยนต์สัญจรไปมาทำให้บรรยากาศสั่นสะเทือนมากขึ้น เราจึงต้องการให้คนไปน้อยที่สุดเพื่อป้องกันดินถล่มในอนาคต” นายบรรณรักษ์ กล่าว


 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่