ด้านนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ขณะนี้พบร่างผู้สูญหาย ทั้ง 46 ราย คงเหลืออีก 1 ราย ที่ยังไม่สามารถนำขึ้นมาได้ แม้ว่าทีมปฏิบัติการค้นหา ซึ่งเป็นความร่วมมือของทัพเรือภาคที่ 3 และนักประดาน้ำชาวจีน ได้ร่วมปฏิบัติการค้นหาอย่างต่อเนื่อง จากนั้นได้ลงเรือพร้อม พล.ร.ท.สมนึก เปรมปราโมทย์ ผบ.ทรภ.3และคณะ เดินทางไปสำรวจจุดเรือจมเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
“ชุดปฏิบัติการดังกล่าวประกอบด้วยทีมดำน้ำจากทหารเรือ 20 นาย นักประดาน้ำจากจีน 10 นาย ตำรวจน้ำ 3 นาย และอาสาสมัครชาวต่างชาติ 5 นายจากประเทศนิวซีแลนด์ สก็อตแลนด์ โปรตุเกส และออสเตรเลีย กำลังเร่งระดมการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ เวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา เริ่มปฏิบัติการไปแล้ว 4 ไดฟ์ โดยนำอุปกรณ์เครื่องดูดทรายแบบพกพา พร้อมพลั่วไปทำการกู้ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ”
“ขณะที่ทีมปฏิบัติการชุดที่ 5 ซึ่งเป็นอาสาสมัครชาวต่างชาติ ตำรวจน้ำ โดยใช้เรือฐานปฏิบัติการดำน้ำ "โชคสมบูรณ์ 5" ลงไปปฏิบัติการโดยใช้เครื่องพ่นทรายและพลั่วไปดำเนินการต่อทั้งนี้ชุดปฏิบัติการดังกล่าวจะสามารถอยู่ใต้น้ำได้นานกว่า 2 ชั่วโมง หากไม่มีปัญหาอุปสรรคจากสภาพคลื่นลมแรงน่าจะบรรลุภารกิจ” น.อ.ณรงค์ กล่าว
ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ตร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม ขณะที่ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ระบุเตรียมจัดระเบียบเรือนักท่องเที่ยว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวทางทะเล
สำหรับการสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต พล.ร.ท.สมนึก กล่าวว่า ทัพเรือภาคที่ 3 ได้ร่วมกับกรมเจ้าท่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมจัดระเบียบเรือนักท่องเที่ยว สร้างมาตรการควบคุม สร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต โดยอาศัยอำนาจของ ศรชล.เขต 3 มีการประชุมหารือกำหนด แนวทางบูรณาการร่วมกับ กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ เพื่อจัดกำลังพลร่วมกันอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการขึ้นสู่เรือตามท่าต่าง ๆ
ในขั้นต้นพิจารณาจากเรือที่มีขนาด 60 ตันกรอสขึ้นไป โดยจะดำเนินการจะดำเนินการในท่าเรือหลัก 4 ท่าก่อน ประกอบด้วย ท่าเรืออ่าวฉลอง ท่าเรือรัษฎา ท่าเรือวิสิษฐ์พันวา และท่าเรืออ่าวปอแกรนด์มารีน่า โดยจะดำเนินการตั้งแต่วันนี้ (13 กค.61) เป็นต้นไป พร้อมจัดกำลังในสังกัดออกลาดตระเวน และจัดประชุมให้ทุกหน่วยมีส่วนร่วมในการควบคุมและจัดระเบียบเรือท่องเที่ยวในครั้งนี้ต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ผบ.ทร.ภาค 3 กล่าวย้ำว่ากองทัพเรือจะอยู่เคียงข้างประชาชนต่อไป
แหล่งที่มา : ศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์ร่วม กรมประชาสัมพันธ์