ภายใต้อำนวยการของ พ.ต.ต.ก้องภพ โพธิ์แสน ผบ.ร้อย (สบ2) กก.ตชด.42 (ร้อย ตชด.425) นำโดย ร.ต.อ.อำพล สมอไทย หน ชปข. ร้อย ตชด.425 (จ.ภูเก็ต) ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ นราศรี ผบ.มว (สบ1) กก.ตชด.42 พร้อมพวกร่วมกันจับกุมตัว
นายเศรษฐหิรัณย์ แซ่อึ้ง (ต่อ) อายุ 27 ปี และ นายบุญฤทธิ์ ปิยะวงษ์ (นัท) อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์น้ำหนักรวมถุงประมาณ 9.94 กรัม, ยาบ้า 111 เม็ดครึ่ง, เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง, อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ลูกโม่ จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 มม จำนวน 6 นัด และ ซองปืนจำนวน 1 ซอง
พร้อมกับตั้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนขนาด .38 (ลูกโม่) และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
ร.ต.อ.อำพล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีนายต่อและนายนัท (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และทั้งคู่ชอบพกยาเสพติดติดตัวเป็นประจำ พร้อมแจ้งรูปพรรณสัณฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทราบ
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 เม.ย. เวลาประมาณ 19.00 น. สายลับได้มาแจ้งว่าขณะนี้พบเห็นนายต่อและนายนัท อยู่ที่บริเวณหน้าบ้านพักคนงานของพนักงานเทศบาลนครภูเก็ต ถ.รัตนโกสินทร์ 200 ปี ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากได้รับแจ้งจากสายลับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพร้อมกับสายลับจึงได้เดินทางไปเฝ้าสังเกตการณ์ยังสถานที่ดังกล่าว
เมื่อไปถึงจุดดังกล่าวชุดจับกุมสังเกตเห็นผู้ชาย 2 คนยืนอยู่หน้าบ้านพักคนงานพนักงานเทศบาลนครภูเก็ต ตามที่สายลับแจ้งและแสดงท่าทางมีพิรุธ สายลับที่เดินทางมาด้วยได้แจ้งยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมว่าผู้ชายสองคนนั้นคือ นายต่อและนายนัท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตรวจสอบและตรวจค้นแต่ทั้งสองคนพยายามจะวิ่งหลบหนีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสามารถควบคุมตัวไว้ได้
ก่อนจะแสดงบัตรเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และทั้งสองยินยอมให้ตรวจค้น โดยให้ทั้งคู่ล้วงควักสิ่งของออกมาด้วยตนเอง ผลการตรวจค้นปรากฎว่าไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่ทั้งนายเศรษฐหิรัณย์และนายบุญฤทธิ์ยอมรับว่าได้เสพยาเสพติดจริง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวมาทำการสอบสวนเพิ่มเติม และยอมรับว่าได้ซุกซ่อนยาเสพติดจำนวนหนึ่งไว้ที่ห้องเช่าอาคารเลขที่ 475/20 ห้องหมายเลข 5 ซ.กอไผ่ ถ.ภูเก็ต ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปที่ห้องเช่าดังกล่าวเพื่อตรวจค้นจนพบของกลางทั้งหมดภายในห้องเช่าของนายเศรษฐหิรัณย์และนายบุญฤทธิ์ โดยทั้งคู่ยอมรับว่าของกลางเป็นของตนเอง จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหากับของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายยาเสพติดซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะได้ติดตามสืบหาข้อมูลเพื่อการจับกุมต่อไป