ความรักและการรอคอย “สมรสเท่าเทียม” เพราะทุกความรักงดงามเสมอ

เมื่อย้อนกลับไปในวันที่ 23 มกราคม 2568 กลิ่นของความรักต่างก็อบอวลอยู่ในหลายพื้นที่ไม่ต่างจากวันนี้ 14 กุมภา “วันวาเลนไทน์” เพราะบรรยากาศงานสมรสเท่าเทียมของจังหวัดภูเก็ตใน “วันแรก” หรือ งานเปิดฉาก DOPA-Day One: ตีฆ้องชัย ให้ทุกความรัก

ณัฏฐ์นรี ลิขิตวัฒนสกุล

วันศุกร์ ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568, เวลา 12:00 น.

ภาพ Shuba2/ Flickr

ภาพ Shuba2/ Flickr

บรรยากาศเป็นไปคึกคัก บรรยากาศหลายพื้นที่ต่างอบอวลไปด้วยความรักและความสุข ที่ล้นออกมาจากความปลื้มปิติยินดีในหัวใจ เพราะในวันที่ 23 มกราคม 2568 คือวันที่หลายคน “รอคอย” ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตไฮไลท์อยู่ที่ ศูนย์การค้าจังซีลอน ซึ่งเป็นสถานที่นำร่องการจดทะเบียนของสำนักงานทะเบียนอำเภอกะทู้ ซึ่งมีคู่สมรสเข้าร่วม 24 คู่

เรื่องราวของความรักที่เดินทางผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาจนมาถึงวันที่ “สิ้นสุดการรอคอย” เมื่อกฎหมาย “สมรสเท่าเทียม” มีผลบังใช้แล้ว และคู่รักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วประเทศไทยได้ออกมาจรดปากกาจดทะเบียนสมรสกันเป็นจำนวนมาก และส่วนหนึ่งของคู่รักชาว LGBTQ+ ก็ได้เปิดเผยเส้นทางความรักผ่าน The Phuket News ให้พวกเราได้ร่วมยินดีกับทุกคู่รักสำหรับอีก 1 วันดี ๆ บนเส้นทางแห่งความรัก

คุณแอนและคุณคาฟฟี่เปิดเผยว่า “พวกเรานอนไม่หลับเลย เราตื่นเต้นมากสำหรับวันนี้ เมื่อได้ยินว่ากฎหมายผ่าน เราก็เริ่มวางแผนและจองวันลงทะเบียนแต่งงานทันที”

“ไม่เคยแต่งงานเลยค่ะ ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ด้วยซ้ำ ดีใจมากที่ประเทศไทยประกาศกฎหมายตัวนี้ออกมา” คุณแอนเสริม

“เราอยู่ด้วยกันมา 7 ปีแล้ว และเราตั้งใจว่าจะแต่งงานกันมานานแล้ว แต่ทำไม่ได้เพราะเราไม่มีกฎหมายให้สิทธิสมรส” คุณแอนและคุณคาฟฟี่กล่าว “และวันนี้เรามีความสุขที่ได้แต่งงานกันอย่างเท่าเทียมกันสักที” ทั้งคู่กล่าวเสริม

คุณปาณิสราและคุณปลายสนิท กล่าวว่า “เราดีใจมากที่มีวันนี้ เราไม่เคยคิดว่าประเทศไทยจะมีความเปิดกว้างถึงขนาดนี้ เรารอคอยช่วงเวลานี้มานานกว่า 4 ปีแล้ว และมันเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ประเทศไทยมีความเปิดกว้างและหลากหลายมากขึ้นในเรื่องเพศ”

คุณอาร์มและคุณอ้อมบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขา “เรารู้สึกตื่นเต้นกับการแต่งงานที่เท่าเทียมกัน มันทำให้เรามีสิทธิเท่าเทียมกับคู่รักต่างเพศ เรามีความสุขมากที่ในที่สุดก็มีอิสระในความรัก ตอนเเรกก็รู้สึกว่าสิทธิที่เราสมควรได้รับนั้นอยู่ไกลเกินเอื้อม”

“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง มันรู้สึกเหมือนอิ่มอกอิ่มใจ ที่เราได้มีวันนี้” คุณอ้อมกล่าว

ทั้งคู่เล่าว่า “เราเป็นเพื่อนบ้านกัน บ้านของเราอยู่ใกล้กันมาก แม้จะมีช่องว่างอายุถึง 24 ปี แต่เราใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว”

“เราพร้อมที่จะเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว” คุณอาร์มเสริม

HeadStart International School Phuket

สำหรับคุณน้ำและคุณนก มองว่าโอกาสนี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดของการรอคอยอันยาวนาน

“เราเรียนปริญญาโทด้วยกัน และนกจบการศึกษาด้วยใบปริญญาสองใบ ทั้งใบปริญญาและได้ทั้งสามี” คุณนกตอบพร้อมหัวเราะด้วยความสุข

คุณน้ำเสริมว่า “เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เรียนจบและรอคอยสิ่งนี้มานานมาก เรารอคอยมา 10 ปีแล้ว ตอนแรกเราตั้งใจจะบินไปต่างประเทศเพื่อจดทะเบียน แต่เมื่อประเทศไทยประกาศกฎหมายฉบับนี้ เราก็ดีใจมาก ซึ่งน้ำมองว่า จริง ๆ เรื่องสมรสเท่าเทียมเราควรจะมีมานานแล้ว”

ทางด้านคุณไจ๋และคุณปุ้ยก็ได้บอกเล่าเรื่องราวแห่งความรักในมุมของพวกเขาว่าทั้งคู่ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกันมาตั้งแต่ก่อนที่กฎหมายจะประกาศใช้ โดยยังคงมีความหวังว่าวันนี้จะมาถึง

“เราถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกันเมื่อ 3 ปีก่อน เราถ่ายกันเล่น ๆ เเต่ก็ไม่คิดว่าจะมีวันที่เราได้ใช้ มันมีความสุขมาก ๆ ที่รูปพวกนั้นได้นำมาใช้จริง ๆ” พวกเขากล่าว บรรยากาศของงานเต็มไปด้วยความรัก ความสุข และแม้กระทั่งน้ำตา เมื่อคู่รักและแขกต่างเฉลิมฉลองร่วมกัน

คุณโทนี่ หนึ่งในชาว LGBTQA+ ที่อาศัยอยู่ในภูเก็ตกล่าวตนเคยกลับไปจดทะเบียนที่สหรัฐอเมริกาโดยไม่คิดว่าประเทศไทยจะมีวันนี้

“ผมรู้สึกยินดีที่ได้เห็นความก้าวหน้าของประเทศไทยในเรื่องความเสมอภาคในการสมรสสำหรับชาว LGBTQIA+ ซึ่งไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในความหลากหลายของความรักเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างบรรทัดฐานให้กับประเทศไทยด้วย เนื่องจากเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อนุญาตให้มีกฎหมายดังกล่าว” คุณโทนี่กล่าว

“จากมุมมองของผมในฐานะชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมานานกว่าทศวรรษ ผมมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่คนไทยมีความเปิดกว้างต่อกลุ่ม LGBTQIA+ มาก และเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้เห็นกฎหมายสอดคล้องกับวิถีชีวิตที่ได้รับการสนับสนุนและแสดงให้เห็นอย่างเปิดเผยในราชอาณาจักร” เขากล่าวทิ้งท้าย


 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่