เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 1 ก.ค. 60 กรมการปกครอง จ.ภูเก็ต ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิบ้านศรีชุมพาบาล-ศูนย์เรียนรู้คณะศรีชุมพาบาล ตั้งอยู่เลขที่ 35/8 หัชนาซอย 2/9 ถ.อนุภาษภูเก็ตการ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ว่าได้มีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์ เป็นจำนวนมาก ทั้งชาย-หญิงและเด็กเล็ก ตลอดจนพระภิกษุสงฆ์รวมจำนวน 356 คนได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิฯให้ช่วยดำเนิการประสานงานเพื่อส่งกลับ หลังรัฐบาลประกาศพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560
โดยมีใจความสำคัญว่า นายจ้างที่รับคนต่างด้าวทำงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน รับคนต่างด้าวซึ่งไม่มีใบอนุญาตทำงานกับตนเข้าทำงานมีโทษปรับตั้งปรับตั้งแต่ 400,000 -800,000 บาทต่อคน ต่างด้าวที่จ้าง 1 คนและนายจ้างให้คนต่างด้าวทำงานไม่ตรงตามที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตมีโทษปรับไม่เกิน 400,000 บาทต่อคนต่างด้าว 1 คน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.60 ส่งผลให้นายจ้างไม่สามารถจ้างแรงงานต่างด้าวที่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.ดังกล่าวอีก เนื่องจากอัตราโทษปรับสูง จึงหยุดการจ้างงาน ทำให้แรงงานต่างด้าวที่อยู่นอกระบบได้รวมตัวเดินทางเข้ามายังมูลนิธิฯ เพื่อรอเดินทางกลับ
ทั้งนี้ นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนาย ศิวัชฐ์ ระวังกุล ป้องกันจังหวัดภูเก็ตและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมพร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยอำนวยความสะดวก และประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตช่วยดำเนินการส่งกลับ พร้อมกันนี้ได้นำน้ำดื่มและของใช้จำเป็นบางส่วนไปมอบให้ขณะรอเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนำส่งเดินทางกลับตามขั้นตอนในวันอาทิตย์ (2 ก.ค.)
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จัดทำประวัติแรงงานทั้งหมดก่อนจะมีการคัดแยกแรงงานชายหญิงเพื่อพักในสถานที่ 2 แห่ง เพื่อลดความแออัด ซึ่งแรงงานชายทั้งหมดจะนำไปส่งที่ศาลเจ้าบ้านท่าเรือ ส่วนแรงงานหญิงและเด็ก จะให้พักที่ภายในมูลนิธิฯ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตม.จะดำเนินการส่งกลับ
นาย มิตร ไม่ทราบนามสกุล อาสาสมัครชาวเมียนมา มูลนิธิบ้านศรีชุมพาบาล-ศูนย์เรียนรู้คณะศรีชุมพาบาล เล่าว่า หลังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ดังกล่าวทำให้มีแรงงานเมียนมาร์จากทุกสาขาอาชีพ จากทั้ง 3 จังหวัดคือพังงา ภูเก็ต และกระบี่ประสานขอความช่วยเหลือที่มูลนิธิ เนื่องจากนายจ้างกลัวความผิดจึงเลิกจ้าง และจ่ายเงินค่าจ่างงวดสุดท้ายให้เพื่อเดินทางกลับ มีทั้งได้ค่าจ้างครบและไม่ครบ
โดยตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.60 มีแรงงานเข้ามาขอความช่วยเหลือและดำเนินกลับไปแล้วชุดแรกจำนวน 65 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตม. ได้ส่งกลับไปถึงประเทศเมียนมาร์ส่วนในวันที่ 1 ก.ค. เป็นชุดที่ 2 จากที่ทำประวัติมีจำนวน 356 คน รวมล่าสุด 421 คน และยังคงมีแรงงานแจ้งความประสงค์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในวันอาทิตย์จะเดินทางมาอีกเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้จากที่ได้พูดคุยแรงงานส่วนใหญ่เมื่อถูกนายจ้างเลิกจ้างเพราะกลัวความผิดจึงต้องหาทางกลับกันเป็นกลุ่มใหญ่ บางส่วนเล่าว่าได้หลบอยู่ในป่าหลายวันจนเกิดความกลัวและตัดสินใจประสานงานเพื่อขอเดินทางกลับ
