โพดุลคร่า 7 ชีวิต สูญหาย 3

วันนี้ (3 ก.ย.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์สาธารณภัยจากอิทธิพลพายุโซนร้อน 'โพดุล' ประจําวัน เมื่อเวลา 06.00 น. ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจำนวนทั้งสิ้น 7 ราย และสูญหายอีก 3 ราย ประชาชนได้รับผลกระทบ 57,138 ครัวเรือน สถานศึกษา 228 แห่ง ผลกระทบด้านการเกษตรคาดเสียหาย 662,205.75 ไร่

ข่าวภูเก็ต

วันอังคาร ที่ 3 กันยายน 2562, เวลา 16:01 น.

สถานการณ์พายุโซนร้อน "โพดุล" ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกําลังแรง ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. 62 - ปัจจุบัน ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ ในพื้นที่ 26 จังหวัดของประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย อํานาจเจริญ กระบี่ ปราจีนบุรี แพร่ นครพนม เชียงใหม่ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ระนอง เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ขอนแก่น หนองบัวลําภู ยโสธร กาฬสินธุ์ น่าน ตราด มุกดาหาร อุตรดิตถ์ ชัยภูมิ สุรินทร์ พิษณุโลก พิจิตร แม่ฮ่องสอน ชุมพร และจังหวัดอุดรธานี กับอีก 105 อำเภอ 381 ตำบล 1,666 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล 6 ชุมชน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 57,138 ครัวเรือน

เสียชีวิต 7 ราย สูญหาย 3
มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ได้แก่ อุบลราชธานี 1 ราย, พิจิตร 1 ราย, พิษณุโลก 1 ราย, อํานาจเจริญ 1 ราย, ขอนแก่น 1 ราย และ ร้อยเอ็ด 2 ราย สูญหาย 3 ราย ในพื้นที่จังหวัดอํานาจเจริญ พิจิตร และน่าน มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ในจังหวัดชัยภูมิ สาเหตุการเสียชีวิตมาจากน้ำพัดพา, จมน้ำ และไฟฟ้าช็อต และสูญหายถูกน้ำพัดพาในขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ 

ความเสียหายของเส้นทางคมนาคม สถานศึกษา และผลกระทบด้านการเกษตร
ข้อมูลกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ระบุ เส้นทางคมนาคมทางหลวงได้รับความเสียหาย 9 จังหวัด ได้แก่ น่าน, มุกดาหาร, ยโสธร, อุบลราชธานี, พิจิตร, พิษณุโลก, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด และบึงกาฬ เส้นทางคมนาคมทางหลวงชนบทได้รับความเสียหาย 6 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, อํานาจเจริญ, ยโสธร, มุกดาหาร และกาฬสินธุ์

สถานศึกษาได้รับผลกระทบรวม 228 แห่ง (ข้อมูลกระทรวงศึกษาธิการ) ผลกระทบด้านการเกษตร (ข้อมูลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ด้านพืช พื้นที่คาดจะเสียหาย 662,205.75 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 616,222.75 ไร่ พืชไร่ 44,927 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 1,056 ไร่, ด้านประมง พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำคาดว่าจะเสียหาย/สูญหาย เป็นบ่อปลา/กุ้ง 6,910 บ่อ กระชัง 34 กระชัง, ด้านปศุสัตว์ สัตว์ที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย 675,586 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 21,024 ตัว สุกร-แพะ 33,236 ตัว และสัตว์ปีก 621,308 ตัว

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ น่าน เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร อํานาจเจริญ ยโสธร ขอนแก่น อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด

สถานการณ์ผู้อพยพ
มีผู้อพยพ 5 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น น่าน อํานาจเจริญ ยโสธร และ อุบลราชธานี รวม 13 จุด 2,441 คน ประกอบด้วย จ.ขอนแก่น อ.บ้านไผ่ 7 จุด 220 คน ได้แก่ ศูนย์สุขภาพโนนสว่าง 100 คน, วัดสุมนา มัย 20 คน, ศาลาชุมชนสุมนามัย 20 คน, สะพานขาวห้วยจิก 20 คน, สะพานขาวห้วยทราย 20 คน, มิตรภาพ ซอย 1 20 คน และมิตรภาพซอย 4 จำนวน 20 คน

จังหวัดน่าน อ.นาน้อย 1 จุด 51 คน ต.สันทะ ศูนย์พักพิง ชั่วคราววัดห้วยจอย, อํานาจเจริญ 3 จุด 350 คน ได้แก่ วัดในสมบูรณ์ 150 คน, โรงเรียนนาหม่อม 50 คน และ ต.ดอนว่าน อพยพ ไปยังวัดพระศรีเจริญ 150 คน รวม 350 คน, ยโสธร อพยพ 2 จุด 1,750 คน ได้แก่ อบต.คําไผ่, รพ.สต.คําไผ่ 1,600 คน และจุดที่ 2 ศูนย์อพยพวัดเชียงเพ็ง 150 คน ต.เชียงเพ็ง และอุบลราชธานี อ.ม่วงสามสิบ 1 จุด 70 คน มายังศูนย์พักพิงชั่วคราว โรงเรียนบ้านหนองบัวดอนส้มปล่อย

สำหรับการให้ความช่วยเหลือ สนง.ปภ.จังหวัด/อําเภอ หน่วยทหารในพื้นที่ จนท.ตร. อปท. อส. อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิเข้าสํารวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมไปถึงการแจกจ่ายสิ่งของพระราชทาน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย การสำรวจความเสียหาย และเข้าสนับสนุนในส่วนของการทํางานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่ประสบภัย

พื้นที่เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์
ตามประกาศ กอปภ.ก. แจ้งให้จังหวัดเตรียมพร้อม ป้องกัน รับมือ และลดผลกระทบจาก สถานการณ์ฝนตกหนัก น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และคลื่นลมแรง ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระหว่างวันที่ 2-4 กันยายน 2562 (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ทําให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ปริมาณฝนสะสม คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

จึงขอให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์สาธารณภัยในช่วงวันที่ 2-4 ก.ย. นี้ ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรง ขอให้ทุกพื้นที่เตรียมความพร้อมและติดตามข้อมูลสภาวะอากาศอยู่ตลอดเวลา เตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ กําลังพล ให้พร้อมสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ เรื่อง "พายุระดับ 3 (โซนร้อน) “คาจิกิ” ซึ่งจะมีผลกระทบจนถึงวันที่ 4 ก.ย. โดยร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่พายุระดับ 3 (โซนร้อน) บริเวณเมืองเว้ ชายฝั่งของประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ยังคงมีกําลังแรงต่อเนื่อง ทําให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณ ทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกําลังแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอัน ดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่ง

ล่าสุดอิทธิพลพายุโซนร้อน "คาจิกิ" ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกําลังแรง ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. 62 - ปัจจุบัน ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลําปาง อุตรดิตถ์ เลย ขอนแก่น อุบลราชธานี 6 อำเภอ 8 ตำบล 9 หมู่บ้าน 2 เทศบาล 2 ชุมชน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 34 ครัวเรือน

ข้อมูล/ภาพ : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่