ชายเมียนมาเมาชนจักรยานยนต์แล้วหนี ใช้มีดข่มขู่ตำรวจ สุดท้ายโดนสยบด้วยปืนไฟฟ้า

ภูเก็ต – ผกก.สภ.เชิงทะเล เปิดเผยความคืบหน้ากรณีชายชาวเมียนมาประสบอุบัติเหตุจักรยานยนต์ชนจักรยานยนต์แล้วหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวกลับใช้มีดข่มขู่ สุดท้ายโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจสยบด้วยปืนไฟฟ้า

เอกภพ ทองทับ

วันพุธ ที่ 24 เมษายน 2567, เวลา 20:45 น.

จากกรณีมีอุบัติเหตุรถชนบริเวณถนนเลียบหาดบางเทา ต.เชิงทะเล ระหว่างรถจักรยานยนต์กับรถจักรยานยนต์ เป็นชายชาวเมียนมา ไม่ทราบชื่อ-สกุล เป็นผู้ขับขี่รถ จักรยานยนต์ ซึ่งในระหว่างสอบถามรายละเอียด ชายเมียนมารายดังกล่าวได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส.ต.ท.ญาณวุฒิฯ จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ติดตามมาจนถึงแคมป์คนงานไม่มีเลขที่ บ้านบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ชายเมียนมาได้จอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้แล้ววิ่งเข้าไปในแคมป์คนงาน จึงได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนเดินทางมายังที่เกิดเหตุ ได้พบกับชายเมียนมายืนอยู่บริเวณหน้าแคมป์คนงาน ในมือถืออาวุธมีดและชี้มาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปเจรจากับชายเมียนมา ซึ่งสามารถสื่อสารภาษาไทยได้ ให้วางอาวุธมีดลง แต่บุคคลดังกล่าวพูดจาวกไปวนมา ไม่ยอมวางอาวุธมีด และข่มขู่เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไป

เจ้าหน้าที่จึงขอกำลังสนับสนุนเสริมการปฏิบัติจาก พ.ต.อ.วีรพงศ์ รักขิโต ผกก.สภ.เชิงทะเล พ.ต.ท.สุธรรม รัตนสว่างวงศ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.ชนัตถ์ หงษ์สิทธิชัยกุล สวป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ได้เจรจาเกลี่ยกล่อมให้ชายเมียนมาสงบสติอารมณ์และให้ วางอาวุธมีดลงพร้อมกับให้เดินออกมามอบตัว แต่ชายเมียนมาไม่ปฏิบัติตาม จึงได้เกลี่ยกล่อมใช้เวลานานมากกว่า 30 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตัดสินใจใช้ปืนไฟฟ้ายิงเพื่อควบคุมตัวพร้อมของกลางมายัง สภ.เชิงทะเล ก่อนที่จะฟื้นตัวและดำเนินการสอบสวน ชาวเมียนมาดังกล่าวก่อนดำเนินคดีต่อไป

ล่าสุดบ่ายวันนี้ (24 เม.ย. 67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่แคมป์คนงาน ไม่มีเลขที่ ซอยบางเทา 12 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พบกับนายคาย อายุ 32 ปี ชาวเมียนมาผู้ซึ่งเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนทราบว่าชายคนดังกล่าวชนมอเตอร์ไซค์เขาแล้วหนีมา จากนั้นมีตำรวจ 2 นายตามมาแต่จับไม่ได้ หลังจากนั้นมีตำรวจมา 5-6 คนมาช่วยจับจึงจับได้

ทางด้าน พ.ต.อ.วีระพงศ์ รักขิโต ผกก.สภ.เชิงทะเล ซึ่งลงพื้นที่ปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล กล่าวว่าเมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) เวลาประมาณ 12.00 น. ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ สภ.เชิงทะเล ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีรถเฉี่ยวชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเข้าไปที่เกิดเหตุพบว่า ได้มีคู่กรณีขับรถจักรยานยนต์หลบหนี เชื่อว่าเป็นบุคคลต่างด้าวโดยลักษณะท่าทางเหมือนกับเมาสุราได้หลบหนีไปยังแคมป์ก่อสร้าง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตรจากนั้นได้ให้เขาหยุดรถแต่เขาชักอาวุธมีดยาวประมาณ 1 ฟุตออกมา โดยมีท่าทีเป็นภัยต่อสังคม และได้วิ่งไปยังแคมป์ก่อสร้างดังกล่าว ซึ่งแคมป์คนงานนี้มีชาวพม่าพักอาศัยอยู่ ซึ่งก่อให้เกิดความหวาดกลัวกับคนที่พักอาศัยอยู่ จึงได้สั่งการโดยให้ร้อยเวรต่อสอบสวนไปที่เกิดเหตุรวมตนเองด้วย และรอง ผกก.ปราบปรามไปยังที่เกิดเหตุ
หลังจากนั้นได้ใช้ตามหลักยุทธวิธีเจรจาในเบื้องต้น แต่เขายังแสดงอาการก้าวร้าวเป็นภัยต่อสังคม และถ้าปล่อยเนิ่นนานไปก็จะก่อให้เกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่และผู้คนที่พักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดล้อมและสั่งการโดยใช้ปืนไฟฟ้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภเชิงทะเลที่ได้มีการฝึกว่าจะใช้อาวุธปืนไฟฟ้าดังกล่าว

จากนั้นได้รีบควบคุมตัวและนำอาวุธมีดที่ยาวประมาณ 1 ฟุตออกมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับความปลอดภัย ส่วนตัวเขาก็ได้รับความปลอดภัย และได้ควบคุมตัวมาวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ สภ.เชิงทะเล ปรากฏว่าปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ตนเองได้สั่งการให้ได้ดำเนินการตรวจปัสสาวะ เพื่อตรวจหาสารเสพติดเพิ่มเติมด้วย ในคดีนี้ได้ดำเนินคดีเข้าตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อย ทางสภ.เชิงทะเล ได้ดำเนินตามหลักยุทธวิธีตำรวจ และได้ดำเนินการตามขั้นตอนของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้กำหนดไว้

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่