ซึ่งการประชุมในครั้งนี้เริ่มในเวลา 13.30 น. และใช้เวลาในการประชุมกว่าหลายชั่วโมง โดยเป็นเวทีที่ทำให้ทุกคนได้สร้างความเข้าใจร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งต่างฝ่ายได้แสดงความขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และเอกชนเน้นย้ำว่าพร้อมสนับสนุนการทำงานหน้าด่านอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้มอบหมายให้ท้องถิ่นดูแลและประสานกับ อบจ. อปท. ต่าง ๆ เตรียมแจกถุงยังชีพ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตได้ร่วมพิจารณา ประเด็นการยกระดับมาตรการควบคุมคนเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดภูเก็ตทางบก ผ่านทางด่านท่าฉัตรไชย ตามคำสั่งที่ 2617/2564 ในกรณีที่ผู้เดินทางเข้าพื้นที่และไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจำนวน 2 เข็ม หรือไม่มีผลตรวจโควิด ภายใน 72 ชม. ที่ประชุมมีมติให้มีคำสั่งเพิ่มเติม โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคประจำที่ด่านท่าฉัตรไชยเป็นผู้ออกใบสั่งกักตัว
ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนว่า จังหวัดภูเก็ตจะดำเนินการกำหนดแนวทาง ในการเข้าออกจังหวัดภูเก็ตโดยยังคงยึดตามมาตรการในคำสั่งที่ 2617/2564 แต่จะกำหนดให้มีเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคประจำด่านท่าฉัตรไชยเป็นผู้ออกใบสั่งกักตัวให้กับประชาชนที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ในกรณีที่บุคคลเหล่านั้นไม่มีเอกสารการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือไม่มีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนการเดินทาง 72 ชั่วโมง
เพื่อเป็นการลดความตึงเครียดให้กับพี่น้องประชาชน เนื่องจากความไม่สะดวกในการแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางเข้าสู่จังหวัดภูเก็ต 72 ชั่วโมง และเป็นการลดภาระให้กับพี่น้องประชาชน
สำหรับใบสั่งกักตัวมีกำหนด 14 วัน หรือตามระยะเวลาที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และจะต้องรายงานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ EOC ประจำตำบล และหากกระทำการฝ่าฝืนคำสั่งจนเป็นเหตุให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคก็จะได้รับโทษตามประกาศจังหวัดภูเก็ตต่อไป
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต