เจ้าของคอกม้าสุดทนเข้าแจ้งความหนุ่มอเมริกัน 19 วิตถารล้วงอวัยวะเพศม้าท้องแก่จนแท้งลูก

ภูเก็ต - จากกรณีเพจมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ แชร์รูปพร้อมข้อคงามว่า #ภูเก็ตอีกแล้ว_กรณีนี้ต้องเพิกถอนวีซ่าไหม #ดำเนินคดีชาวต่างชาติ_อนาจารม้าท้องแก่หลักฐานกล้องวงจรปิดชี้ชัด ! อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 12 มีนาคม 2567, เวลา 09:21 น.

WDT รับเรื่องร้องเรียนชาวต่างชาติเข้าทำอนาจารม้าถึงในคอก ด้วยการใช้มือล้วงเข้าไปในอวัยวะเพศแม่ม้าท้องแก่ โดยเจ้าของแจ้งว่า เคยทำอย่างนี้มาหลายครั้งแล้ว จนแม่ม้าแท้งลูกไปแล้ว 2 ตัว เจ้าของม้าสุดทน เข้าแจ้งความขอให้เกิดการดำเนินคดีพร้อมประสานขอความช่วยเหลือจาก WDT 

WDT ประสาน พ.ต.อ.นิกร ชูทอง ผกก.สภ. ถลาง จ.ภูเก็ต มอบหมายให้ พ.ต.ต.ยุทธพล วัทธเศรษฐ์ สว.(สอบสวน)สภ.ถลาง รับแจ้งความคดีอาญา เตรียมตัวลงพื้นที่ติดตามตัวชาวต่างชาติผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อหยุดการกระทำอนาจารม้าและทำให้ม้าเป็นอันตรายจนเกิดความเสียหาย แม่ม้าที่ถูกทำอนาจาร จะเกิดมีเมือกที่อวัยวะเพศ ราว 1 สัปดาห์ แล้วจึงแท้ง เป็นม้าแคระ อายุท้อง 9 เดือน 

ล่าสุด คือแม่ม้าสีขาวที่ถูกกระทำ ม้าต้องเดินยกหางตลอด น่าจะมีการระคายเคือง ปรึกษาปศุสัตว์ แจ้งว่าน่าจะมีการอักเสบติดเชื้อ แต่ถ้าฉีดยาฆ่าเชื้อยาก็อาจมีผลกับลูกม้า แต่ถ้าไม่ฉีดมีการติดเชื้อม้าก็อาจแท้งเช่นกัน ความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงแทบประมาณไม่ได้ 

จากนั้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังคอกม้าดังกล่าว ในพื้นที่หมู่ 4 ซอยบางทราย ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พบกับนายชัชโรจน์ เลขอาวุธ อายุ 50 ปี และนางประภาดา เลขอาวุธ อายุ 43ปี เจ้าของคอกม้า ได้แจ้งว่า นายสตีเวน อายุ 19 ปี สัญชาติอเมริกัน เข้ามาทำอนาจารม้าเพศเมียที่คอกม้านี้ทั้งหมด 3 ตัว โดยตัวแรกชื่อน้องมะลิ ม้าแคระ ท้อง 9 เดือน แท้ง เมื่อปีที่แล้ว ตัวที่สองน้องจีน่าเมื่อเดือน ก.พ. 67 แต่ท้องว่าง ไม่ได้ท้อง ล่าสุดตัวที่สามน้ององุ่น ท้อง 4 เดือนกว่า ยังไม่แน่ใจว่าแท้งหรือไม่รอหมอตรวจก่อน

ต่อมาเมื่อช่วงค่ำของวันเดียวกัน พ.ต.ต.ยุทธพล วัทธเศรษฐ์ สว.(สอบสวน) สภ.ถลาง จนท.ชุดสืบสวน สภ. จนท.ตร.ทท.ภูเก็ต และจนท.ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต (TAC) ได้เดินทางไปยังบ้านพักของนายเดวิด ซึ่งห่างจากคอกม้าเกิดเหตุ ไม่มากนักซึ่งเป็นพ่อของนายสตีเวนผู้ก่อเหตุ และทางนายชัชโรจน์เจ้าของคอกม้าได้เปิดกล้องวงจรปิดให้นายเดวิดดูการกระทำของนายสตีเวนลูกชาย หลังจากนายเดวิดเห็นก็มีอาการตกใจ ไม่คาดคิดว่านายสตีเวนจะกระทำเช่นนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งรายละเอียดให้พ่อของ นายสตีเวนทราบ ก่อนที่จะนัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายไปเจรจาที่สภ.ถลาง ในวันที่ 16 มี.ค.67

ด้านนางประภาดา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนเห็นเขามาสักพักแล้วคิดว่าเป็นเด็กทั่วไปที่รักม้ารักสัตว์เขาชอบมาที่คอกม้า ซึ่งตนผูกล่ามม้าไว้ที่สวนยางเพื่อให้ม้าได้เล็มหญ้า หลัง ๆ มาเจอมาลูบไล้ม้า ตนก็ไม่ได้เอะใจจนเห็นพฤติกรรมไม่ดี ตนก็เลยคิดว่าจะทำอย่างไรให้เซฟม้าของตน ก็เลยไม่พยายามนำม้าไปผูกที่ไกลให้อยู่ในสายตาเรา พอหลังจากที่เขามาทำม้าหลังจากที่เขาอยู่ใกล้ม้า ม้าจะมีเมือกที่อวัยวะเพศจนม้าแท้งแล้วมาแทงเหตุการณ์ 2 ตัวแต่มาผูกล่ามในสวนยางเราไม่สามารถเก็บเป็นวีดีโอได้ จึงไม่ได้มีการแจ้งความใด ๆ เพื่อความปลอดภัยของม้าเราจึงไม่นำม้าออกไปสวนยางเกือบปีแล้ว เราให้ม้าอยู่ในคอกอยู่ในบริเวณบ้านเพื่อให้ม้าปลอดภัย แต่สิ่งที่เราคิดว่าม้าปลอดภัย เราไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรมากี่ครั้ง วันนั้นแม่มานอนที่บ้านด้วยมีเสียงแปลก ๆ ในคอกม้าแล้วก็เข้ามาดู เขาอยู่ในคอกม้า ทางเราก็ไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เขาก็กลับไป เราจึงมาเปิดดูในกล้องแล้วเห็นพฤติกรรมเขาที่ทำอนาจารย์ โดยเอามือล้วงเข้าไปในอวัยวะเพศม้า แล้วเรามีการไปแจ้งความไว้ในวันที่ 5 ก.พ. 67 พอมีเสียงหมาเห่าแล้วก็ระแวง เพราะเราไม่ทราบว่าเขาจะมาตอนไหน หลังจากนั้นเกิดเหตุล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มี.ค. เราจับกุ้งอยู่เราทำงาน 08.00 น. เคลียร์งานเสร็จเที่ยงได้นอนประมาณ 14.00 น. ประมาณ 4 โมง 5 โมงเย็นเขาเข้ามาก่อเหตุ

"เราไม่ได้ออกมาดูในตอนนั้นหลังจากนั้น ตอนเย็นเราพาม้าออกเล็มหญ้า แล้วดูผิดปกติมีมูกมีอวัยวะเพศเปียกก็เลยไปเปิดดูกล้อง ก็เห็นเหตุการณ์ที่เขาทำอนาจารอีกครั้ง แต่เป็นคนละตัวกับตัวก่อนซึ่งอยู่คนละคอก ก็เลยโทรไปแจ้งประสานให้ตำรวจเข้ามา หลังจากตำรวจเข้ามาเราก็ไปที่บ้านเด็กแต่ไม่มีใครออกมาหลังจากนั้นเราก็ไปแจ้งความที่ สภ.ถลาง วันนี้ทางตำรวจ สภ.ถลางก็มาดูที่เกิดเหตุ และไปที่บ้านเขาแต่ไม่พบผู้ปกครองเพราะแต่งตัวของ ล่าสุดวันนี้หลังจากรับแม่มาจากโรงพยาบาล คนงานโทรไปบอกว่าเขามาที่บ้านอีกแล้วเราก็เลยรีบตามมาทัน” นางประภาดา กล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่