สส.ภูเก็ต พรรคก้าวไกล ยื่นร้องเรียนกรณีหาดฟรีดอม ส่อทุจริตเรียกรับประโยชน์มโหฬาร

ภูเก็ต - นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต เขต 2 พรรคก้าวไกล ยื่นเรื่องร้องเรียนกรณีหาดฟรีด้อม ต่อคณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมี สส.ฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล โฆษกคณะ กมธ.การที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเพื่อนสมาชิกผู้แทนราษฏร วีรนันท์ ฮวดศรี หรือ ทนายป๊อก จังหวัดขอนแก่น พรรคก้าวไกล

ข่าวภูเก็ต

วันพฤหัสบดี ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567, เวลา 14:00 น.

ภาพ เฟซบุ๊ก เฉลิมพงศ์ แสงดี - Chalermpong Saengdee

ภาพ เฟซบุ๊ก เฉลิมพงศ์ แสงดี - Chalermpong Saengdee

โดย นายเฉลิมพงศ์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า การแถลงข่าวในวันนี้ ผมจะพาทุกท่านลงใต้ไปรู้จัก หาดฟรีด้อม ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นชายหาดที่มีความสวยงาม อันดับ 18 ของโลกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งหาดแห่งนี้มีกฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ ควบคุมดูแล จึงทำให้ยังคงอุดมสมบูรณ์และสวยงาม เป็นทรัพยากรธรรมชาติอันทรงคุณค่าของชาวภูเก็ต ประเทศไทย และโลกใบนี้ ทว่า สิ่งที่กำลังเกิดกับ หาดฟรีด้อม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คือการปล่อยปละละเลยจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งยังส่อเค้าว่าอาจมีการทุจริตเรียกรับประโยชน์อย่างมโหฬารเกิดขึ้น รวมถึงอาจมีความพยายามช่วยเหลือกันเพื่อไม่ให้ต้องรับผิด จึงอยากมาร่วมกันจับตาและรักษาชายหาดแห่งนี้ร่วมกัน

หาดฟรีด้อม ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวน หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลคือ ‘กรมป่าไม้’ ขีดเส้นใต้ให้ชัดว่าคือ กรมป่าไม้ ก่อนหน้านี้มีการประกาศให้เป็นหาดในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามคำสั่ง คสช. ห้ามมี ร่ม เตียง และร้านค้า แต่มาดูสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่กัน

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมือง สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร นำชุดปฏิบัติการ ลงพื้นที่หาดฟรีดอม หลังได้รับข้อร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่ามีการเรียกเก็บเงินค่าผ่านทางไปยังชายหาด คนละ 200 บาท (เงินไปไหน...ถึงใคร ?)

ต่อมา หลังมีคำสั่ง คสช.ได้มีการดำเนินการจัดระเบียบชายหาดไร้ร่มเตียง แต่มีการละเมิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึง 4 ครั้ง โดยเฉพาะในปีที่แล้วพบการฝ่าฝืนถึงสองครั้ง ได้แก่

วันที่ 28 มีนาคม 2566 ได้มีการสนธิกำลังจัดระเบียบหาดฟรีด้อม ให้กลับไปเป็นชายหาดที่บริสุทธิ์ ไร้ร่มเตียง ยึดสิ่งของที่นำมาไว้เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่ง แต่...

วันที่ 28 ธ.ค.2566 ผ่านไปไม่ทันข้ามปีก็เจออีก โดย สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ มอบหมายเจ้าหน้าที่ไปปฎิบัติงานเฝ้าระวังพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขานาคเกิด บริเวณหาดฟรีดอม และบริเวณหาดนุ้ย บริเวณหมู่ที่ 1 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ผลการตรวจสอบพบว่า มีการกางร่มและเตียง ‘เต็มบริเวณ’ ชายหาดฟรีดอม พบผู้ประกอบการรับเป็นเจ้าของร้านค้า รวม 10 ราย ซึ่งทุกรายจะมีการเปิดร้านขายอาหาร และเครื่องแอลกอฮอล์ พร้อมบริการให้เช่าร่มและเก้าอี้เป็นชุด ทั้งหมดให้ข้อมูลตรงกันว่า เริ่มนำร่มเตียงมาวาง และเช่าเมื่อประมาณเดือน ต.ค. 2566 อีกทั้งมีการอ้างว่า “ได้รับการอนุญาตจากกรมป่าไม้แล้ว” โดยได้อ้างถึง นายเสริมสิทธิ์ ลิพอนเขตต์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ มาจัดเก็บผลประโยชน์จากร้านค้า

ล่าสุดปีนี้ วันที่ 12 ก.พ.2567 ผม และหน่วยงานที่เกี่ยวในพื้นที่ จ.ภูเก็ต กรมป่าไม้ พร้อมปลัดจังหวัด ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบปัญหากางร่มเตียงชายหาด แต่กลับไม่พบตามภาพที่ปรากฏ ทั้งนี้ ผมและทีมงานเข้าร่วมประชุมประเด็นหาดฟรีด้อม ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยืนยันว่า เมื่อดูจากแผนที่ หาดฟรีด้อมอยู่ในพื้นที่เขานาคเกิดซึ่งเป็น ‘ป่าสงวน’ จึงรับผิดชอบโดยกรมป่าไม้ ขึ้นตรงต่อส่วนกลาง สำหรับจังหวัดจะมีการให้การสนับสนุนในด้านกำลังพล รวมถึงความต้องการอื่นๆ

แม้การลงพื้นที่ครั้งล่าสุดจะไม่พบร่มเตียงหรือร้านค้า แต่ผมเกรงว่าพฤติกรรมเดิมๆจะกลับมาอีก เพราะเกิดขึ้นแล้วหลายครั้ง คำถามของผมก็คือเหตุใด การวางร่มเตียงบนชายหาด และการขายแอลกอฮอล์ จึงเกิดขึ้นได้ครั้งแล้วครั้งเล่า และเหตุใด? จึงมีการพาดพิงไปถึงพนักงานเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ว่าเป็นผู้อนุญาตให้นำร่มเตียงไปวางในพื้นที่ชายหาดเพื่อเก็บเงินกับนักท่องเที่ยว รวมถึงการแอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์ในส่วนต่างก็ยังคงมีการร้องเรียนเข้ามาบ่อยครั้ง จึงอยากให้ทางกรมป่าไม้หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบมีการสอบสวนโดยเร็ว เพื่อทำทุกอย่างให้มีความโปร่งใส และลากคอไอ้โม่งตัวการใหญ่เบื้องหลังขบวนการนี้มารับผิดให้ได้

ผมเองได้นำเรื่องนี้เข้าสภามาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ปัญหาก็ยังไม่ถูกแก้ไข เหตุการณ์ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยยังคงไม่เห็นการเอาผิดเจ้าหน้าที่คนใดแต่กลับไปย้ายเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบเรื่องนี้ออกจากพื้นที่ด้วย แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงจังในการแก้ไขปัญหา ปล่อยให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามายึดถือ ครอบครอง และหาผลประโยชน์อันมิชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ ด้วยป่าฟรีด้อมอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนซึ่งปกติการเข้าไปใช้ประโยชน์ทำได้ยากมาก ขนาดชาวบ้านจะเข้าไปเก็บของป่าหาเห็ดเล็กๆน้อยก็โดนดำเนินคดีแล้ว แต่เหตุใดกรณีของหาดฟรีด้อม จึงดูฟรีด้อมเหลือเกินสำหรับการเข้าไปหาประโยชน์ เปิดอนุญาตให้เช่าทำกิจการท่องเที่ยวได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นผู้สนับสนุน

นอกจากนี้ ผมยังมีความกังวลในแนวนโยบายที่บอกว่าจะให้รื้อร่มเตียง ร้านค้าต่างๆไปชั่วคราวจนกว่าจะประกาศให้หาดฟรีด้อมเป็น "ป่านันทนาการ" ซึ่งหมายถึงว่า หน่วยงานของท่านในฐานะผู้ดูแลรับผิดชอบมองว่าการหาประโยชน์แบบนี้ไม่ผิดใช่หรือไม่ และหลังจากนี้ท่านจะเลิกทำอะไรลับๆล่อๆ แต่จะเอื้อประโยชน์ไปตรงๆให้กับนายทุนไปเลยใช่หรือไม่ อย่าลืมครับว่า หาดฟรีด้อมเป็นชายหาดที่มีความสวยงาม อันดับ 18 ของโลก อันเนื่องมาจากความพยายามอนุรักษ์รักษาของคนที่นี่ รวมถึงเจ้าหน้าที่น้ำดีที่ช่วยกันดูแล เมื่อความสวยงามนี้ยังคงอยู่จนเป็นที่ยอมรับในระดับโลกก็ยิ่งควรช่วยกันดูแลให้เป็นพื้นที่ของคนทุกคน ไม่ใช่เพื่อให้ใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้หาประโยชน์ สูบกินจนเสื่อมโทรมแล้วก็ทิ้งไป ผมคิดว่า ทิศทางของหาดฟรีด้อมจะเป็นอย่างไรต้องไม่ใช่การตัดสินใจลงมาจากใครคนใดคนหนึ่ง แต่ควรเปิดโอกาสให้คนพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อให้เกิดความยั่งยืน

สุดท้ายนี้ ผมยังมีข้อสงสัยอีกข้อหนึ่งที่ต้องการคำตอบชัดๆจากกรมป่าไม้ว่า เหตุใดภายหลังลงตรวจสอบวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ถึงมีการโยกย้าย นายสายันต์ ด้วนเกตุ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ร่วมตรวจสอบออกไปจากพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนคลายข้อสงสัยว่าเรื่องนี้จะถูกดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่การกลั่นแกล้งโยกย้ายเจ้าหน้าที่น้ำดีที่คอยขัดแข้งขัดขาการหาประโยชน์จากสมบัติชาติ ผมอยากให้ผู้เกี่ยวข้องตอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนด้วยครับ ผมจึงมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเรื่องนี้ไปตรวจสอบต่อไปครับ

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่