รองพ่อเมืองภูเก็ตยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจปัญหาชาวเล สั่งดูแล ประชุมอีกสัปดาห์หน้า

ภูเก็ต – สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตัวแทนชุมชนชาวเลราไวย์ พร้อมด้วย ผู้ประสานงานเครือข่ายสิทธิชุมชนพัฒนาภูเก็ต และชาวเลราไวย์ กว่า 50 คน ได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อยืนหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำเสนอปัญหาข้อพิพาทระหว่างชุมชนชาวเลราไวย์กับเอกชน พร้อมขอตัวแทนชาวบ้านจำนวน 10 คน เข้าประชุมเสนอปัญหาข้อเรียกร้อง เพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกับทางจังหวัด ก่อนจะออกมาแจ้งผลการประชุมแก่ผู้มาร่วมชุมนุม ซึ่งเป็นที่พอใจของกลุ่มผู้ชุมนุมก่อนจะแยกย้ายกลับบ้าน

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 26 สิงหาคม 2562, เวลา 16:39 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภายหลังจาก นายนิรันดร์ หยังปาน ตัวแทนชุมชนชาวเลราไวย์ พร้อมด้วย นายสุภาพ บู่ทอง ผู้ประสานงานเครือข่ายสิทธิชุมชนพัฒนาภูเก็ต และชาวเลราไวย์ ยื่นหนังสือ ต่อว่าที่ร้อยตรี วิกรม จากที่ นายอำเภอเมืองภูเก็ต แล้ว (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ก็ได้เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม POC ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมทั้ง นายอำเภอเมืองภูเก็ต เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ร่วมประชุมกับตัวแทนชาวเลราไวย์ และตัวแทนเครือข่ายสิทธิชุมชนพัฒนาภูเก็ต

นายนิรันดร์ กล่าวว่า “ขอให้ทางจังหวัดทำการตรวจสอบและรังวัดพื้นที่สาธารณะหน้าหาดราไวย์ รวมทั้งการถมคลองหลาโอน ซึ่งพบว่าบริเวณปากคลองเอกชนได้ขุดปากคลองให้ลึก แต่ถมพื้นที่เข้าไปบริเวณริมคลองมากขึ้น และขอคัดค้านการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมEIA ของโครงการ โรงแรม ซาเทรียม โฮเต็ล ราไวย์บีช ภูเก็ต โดย บริษัท บารอน เวิลด์ เทรด จำกัด ที่ดำเนินการในพื้นที่ที่อยู่ในระหว่างมีข้อพิพาท”

ผู้ประสานงานเครือข่ายสิทธิชุมชนพัฒนาภูเก็ต กล่าวว่า เครือข่ายสิทธิชุมชนพัฒนาภูเก็ต มีสมาชิกหลายกลุ่ม กรณีปัญหาพื้นที่ชายหาดหน้าหาดราไวย์ พบว่าเอกชนถมคลองหลาโอน จึงขอให้รังวัดให้เป็นที่สาธารณะชัดเจนมากขึ้น, กรณีชุมชนสระต้นโพธิ์ ถูกไล่รื้อและจังหวัดรับปากจัดหาพื้นที่อยู่อาศัยให้ทางชุมชนฯได้งบประมาณจาก พอช.มาแล้ว แต่ยังไม่มีพื้นที่อยู่อาศัย ตามที่จังหวัดรับปากไว้, ชุมชนพื้นที่หลังสะพานหินถูกขับไล่จากเทศบาลนครภูเก็ต, พื้นที่ชุมชนธนิตธุรกิจ ถูกฟ้องร้องบุกรุกป่าชายเลน, ชุมชนมะลิแก้ว มีพิพาทกับเอกชนและชาวบ้านขอให้รังวัดพื้นที่ให้ชัดเจนด้วย

“ขอให้จังหวัดนัดประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ เพราะที่ผ่านมา ผู้ว่าฯภูเก็ตรับปากว่าจะให้มีการประชุมทุก 2 เดือน แต่ไม่มีการประชุมแต่อย่างใด จึงมาทวงถามจากจังหวัดเรียก ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมและแจ้งความคืบหน้าให้ชาวบ้านรับทราบว่าขั้นตอนถึงไหนอย่างไร และต่อไปจะดำเนินการอย่างไร” นายสุภาพ กล่าว

ด้านรองผู้ว่าฯ อธิบายว่า กรณีพิพาทชุมชนราไวย์กับเอกชน อยู่ในความดูแลของ กบร. และมาตรการการแก้ไขผู้ถูกร้องคดีป่าชุมชน ส่วนใหญ่อยู่ในความดูแลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

“ทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้แก้ปัญหาตามอำนาจหน้าที่ และกรอบของกฎหมาย บางเรื่องอยู่ระหว่างดำเนินการ บางเรื่องอยู่ในคำพิพากษาของศาล ทางจังหวัดไปก้าวล่วงศาลไม่ได้ โดยชุมชนต่าง ๆ ที่เดือดร้อนได้ขอให้เร่งติดตามความคืบหน้าของเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้แล้ว”

“สำหรับพื้นที่ชายหาดที่ทางชุมชนราไวย์มีข้อพิพาทกับบริษัทบารอนฯ ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่โฉนด ของบริษัทบารอนฯ และชาวบ้านกล่าวว่า ที่บารอนทับที่ศาสนสถานที่ชุมชนราไวย์ดำเนินการอยู่นั้น ทางที่ดินจังหวัดภูเก็ต อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนการถมคลองหลาโอน ได้มอบให้นายอำเภอเมืองภูเก็ตไปตรวจสอบ และจะมีการประชุมติดตามเรื่องนี้อีกครั้งในวันที่ 5 กันยายน 2562” นายสุพจน์ กล่าว

จากนั้น ตัวแทนชาวบ้านที่ร่วมประชุมกับทางจังหวัด ได้ออกมาแจ้งผลการประชุมแก่ผู้มาร่วมชุมนุม ทุกคนต่างพอใจและแยกย้ายกลับบ้านไปอย่างสงบเรียบร้อย 

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่