ภาคเอกชนภูเก็ตผนึกกำลังพร้อมเปิดเมือง ล้อมวงพูดคุยก้าวต่อไป “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”

ภูเก็ต - จากความสำเร็จของ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” โครงการเปิดเมืองแบบ ‘แซนด์บ็อกซ์’ หนึ่งเดียวในโลก ซึ่งทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อ 1 กรกฎาคม 2564 มากกว่า 4 หมื่นคน

ข่าวภูเก็ต

วันจันทร์ ที่ 11 ตุลาคม 2564, เวลา 11:00 น.

ภาพ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต

ภาพ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต

ภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ตนำโดย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต (Phuket Tourist Association หรือ PTA) พร้อมผลักดันให้ภูเก็ตก้าวต่อไปอีกขั้น เตรียมเปิดเมืองภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ จัด PTA Townhall ล้อมวงพูดคุยตอบทุกคำถามด้านการท่องเที่ยว และก้าวต่อไปจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในรูปแบบไฮบริด ณ โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ พร้อมถ่ายทอดเป็นไลฟ์อีเวนต์ผ่านทางหน้าแฟนเพจ Phuket Tourist Association

ภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ชูประเด็น Phuket Sandbox, What Next: PHUKET 121 ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้นอีก 30% ภายใน 1 ธันวาคมนี้ “จำนวนนักท่องเที่ยวปัจจุบัน เช่นเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ 776 คน คิดเป็นแค่ 1.5% ของในอดีต เราต้องพยายามทำให้ขนาดนักท่องเที่ยวใหญ่ขึ้น มาร่วมกันตั้งเป้า ‘PHUKET 121’ คือเมื่อถึง 1 ธันวาคม ให้การขอเข้าประเทศง่ายขึ้น มีนักท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 30% หรือประมาณ 10,000 คนต่อวัน”

นันทิดา อติเศรษฐ์ อุปนายกฝ่ายการตลาดต่างประเทศ กล่าวสรุปความสำเร็จของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่เดินทางมาครบ 100 วันในวันที่ 8 ต.ค. ว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักถึง 779,502 คืน 43,026 คน ใน 460 โรงแรม “ทิศทางตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวดีขึ้นในทุก ๆ วัน ขอบคุณคนภูเก็ตที่ร่วมกันฉีดวัคซีน จากนี้เราต้องมามองร่วมกันไปข้างหน้า ในการอยู่ร่วมกับโควิด-19 แบบ Next Normal”

กลุ่มนักท่องเที่ยวในประเทศก็เป็นเป้าหมายสำคัญของการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต พนัชกร ใจเย็น อุปนายกฝ่ายการตลาดในประเทศ พูดถึงแคมเปญ ‘ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ’ ที่จัดมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 ถึงเมษายน 2564 แต่ต้องสะดุดหยุดไปเพราะเกิดโรคโควิด-19 ว่า “แคมเปญภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และเราจะนำแคมเปญนี้ไปต่อยอดทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทยในปี 2565 และขยายผลสู่แผนการท่องเที่ยวเชื่อมโยง เชี่อมภูเก็ตกับจังหวัดท่องเที่ยวหลักต่างๆ ต่อไป”

ด้าน ธนวัต อ่องเจริญ เหรัญญิก สมาคมฯ กล่าวสนับสนุนว่า “ความสำเร็จของภูเก็ตแซนด์ บอกซ์ เริ่มมาจากการวางระบบความปลอดภัย ‘ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ซิสเต็ม’ ที่เริ่มขึ้นเพื่อพัฒนาให้คนเข้ามาท่องเที่ยวอย่างสะดวก ปลอดภัย ด้วยความร่วมมือระหว่างราชการและเอกชน น่าดีใจที่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการจำนวนมากผ่านมาตรฐานทั้ง SHA และ SHABA”
สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ธเนศ ตันติพิริยะกิจ ประธานสหภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภูเก็ต และอุปนายกฝ่ายสนับสนุนกิจกรรมการประชุมและสันทนาการ ยืนยันพร้อมผลักดัน ‘กองทุนฟื้นฟูการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ Phuket Sandbox’ เพื่อเป็นทางออกของธุรกิจท่องเที่ยวที่ก้าวต่อไปได้พร้อมๆ กัน “เราทราบดีว่าผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่ออย่างยากลำบาก สมาคมพยายามผลักดันให้เกิดกองทุน เพื่อฟื้นฟู สนับสนุน และพัฒนา รวม 5,000 ล้านบาท

รังสิมันตุ์ กิ่งแก้ว อุปนายกฝ่ายวิจัยและพัฒนาสินค้าท่องเที่ยว กล่าวว่า ภูเก็ตเติบโตได้จากการท่องเที่ยว แต่เราต้องมามองด้วยว่า ชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวมีความสุข และความพึงพอใจหรือยัง? และจะทำอย่างไรให้ภูเก็ตดีขึ้นกว่าเดิมในทุกๆ ด้าน “คนภูเก็ตทุกคนต้องมาร่วมกันสร้างให้ภูเก็ตดีกว่าเดิม เริ่มจากไปฉีดวัคซีน มีจิตสำนึกการให้บริการที่เป็นธรรม และจิตสำนึกในการดูแลสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชน เที่ยวแล้วชุมชนต้องได้ประโยชน์ ชุมชนต้องเติบโต”

รังสิมันตุ์ยังกล่าวถึงโครงการในอนาคตด้วยว่า ภูเก็ตเตรียมประมูลงาน Specialised Expo 2028 เพราะมีพื้นที่ที่มีความพร้อมที่ ซึ่งจะเป็นงานระดับโลกที่ใหญ่พอๆ กับเวิลด์เอ็กซ์โป ซึ่งจะมีคนเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน และหลังจากนั้น จะใช้พื้นที่ที่จัดประชุมในการสร้างเป็นเมดิคัล เซ็นเตอร์ ศูนย์เวลเนสและสปา ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศต่อไป

รัตนดา ชูบาล อุปนายกฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์และนายทะเบียน กล่าวว่าอานิสงส์ ของภูเก็ต แซนด์บอกซ์ ทำให้สปาและเทราปิสต์กลับมามีงานทำ และมีเงินให้ลูกไปโรงเรียน “พนักงานนวดเริ่มกลับมาทำงาน ร้านนวดริมหาดเริ่มเปิด เป็นสัญญาณที่ดีว่าเม็ดเงินกระจายสู่รากหญ้า ที่ผ่านมาภูเก็ตมีความพร้อมเรื่อง wellness ทั้งโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ เชื่อว่าในอนาคตคนจะย้ายมาแบบ long term มีภูเก็ตเป็น safe zone”

สรายุทธ มัลลัม อุปนายกฝ่ายกฎหมายและรัฐสัมพันธ์ กล่าวถึงเรื่องแรงงานเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาประชากรแฝงที่เข้ามาอยู่ในจังหวัดภูเก็ต เกิดปัญหาทางด้านการรับบริการสาธารณสุข เพื่อขจัดปัญหาที่จะเกิดในอนาคต “นายจ้างควรให้ทุกคนที่เป็นแรงงานต่างจังหวัดมาทำงานเกิน 15 วัน ย้ายทะเบียนบ้านมา เพราะแรงงานเป็นกลไกหลัก”

ส่วน ศิริกุล อัมรามร กรรมการบริหารสมาคมฯ เสริมด้วยว่า “ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนให้ครบโดส หรือบูสเตอร์เข็ม 3 ควรเข้ามารับบริการให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ตนเองกลายเป็นกลุ่มเปราะบาง”

นายกสมาคมฯ สรุปปิดท้ายตอบคำถามเกี่ยวกับข่าวลือการยกเลิกเปิดประเทศไทย 1 พ.ย. ว่าจะมีการเปลี่ยนระบบเป็น Thailand Pass ที่จะง่ายขึ้น และลดขั้นตอนในการเข้าภูเก็ตอย่างแน่นอน โดยความคืบหน้าทั้งหลายจะจัด Phuket Townhall เป็นการประสานของสมาคม องค์กรเอกชน และภาครัฐบาล ในวันที่ 16 ต.ค. นี้ เวลา 10.00-12.00 น.

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่