“ขอความช่วยเหลือ” ภาคเอกชนเสนอตั้งกองทุนฟื้นฟู 5 พันล้าน เพื่อความสุขชาวภูเก็ตทุกคน

ภูเก็ต - ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เรียกร้องให้รัฐบาลจัดตั้ง “กองทุนฟื้นฟู” มูลค่า 5 พันล้านบาท สำหรับการฟื้นธุรกิจในภูเก็ตที่กำลังลำบาก และผู้ประกอบการที่ต้องต่อสู้ทุกวิถีทางเพื่อทำให้ธุรกิจอยู่รอด เพราะผู้ประกอบการอย่างน้อย 80% ไม่มีกระแสเงินสดและกำลังประสบปัญหาต่าง ๆ โดยไม่มีทางออกรองรับ

ข่าวภูเก็ต

วันเสาร์ ที่ 28 สิงหาคม 2564, เวลา 09:00 น.

ซึ่งกองทุนดังกล่าวนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถกลับมาเริ่มต้นใหม่และดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง ทั้งยังเป็นการช่วยสนับสนุนและขับเคลื่อนให้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้เดินหน้าต่อไป

นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยภายหลังจากการร่วมประชุมกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรับมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ผ่านระบบ ZOOM โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ศูนย์ปฏิบัติการ Phuket Sandbox หรือศูนย์แจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา The Phuket News รายงาน 

ในการประชุมภาคเอกชนได้นำเสนอ เรื่องการจัดตั้งกองทุน เพื่อการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และภาคเอกชนต่างเห็นด้วยกับการขับเคลื่อนให้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เดินหน้าต่อไป แต่การที่จะทำให้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เดินต่อไปได้นั้น ภาคเอกชนมองว่าเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ คือเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย เพราะในปัจจุบันผู้ประกอบการกลุ่มนี้ไม่สามารถที่จะเข้าถึงกองทุนฟื้นฟูของรัฐบาลได้ เนื่องจากส่วนใหญ่ยังติดเงื่อนไขหลายเรื่อง เช่นบางคนอยู่ในภาวะพักนี้ ไม่มีการเคลื่อนไหวของงบการเงิน หรือมีมูลหนี้ที่สูงมากแล้ว หรือติดเรื่องใบอนุญาต และปัญหาอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้ประกอบการบางรายยังไม่สามารถเข้าไม่ถึงได้ในระบบปกติ

ธุรกิจกว่า 80% ทำกิจการแบบเปิด ๆ ปิด ๆ ซึ่งหากไม่มีเงินเข้ามาช่วยขับเคลื่อน ผู้ประกอบการในจำนวนนี้อาจจะต้องปิดกิจการไปอย่างถาวร ในขณะที่ 20% ที่เหลือกำลังมีการเคลื่อนไหวในทางที่ดี แต่การฟื้นตัวไม่ใช่เป็นเพียงแค่ในส่วนของนักท่องเที่ยวเท่านั้น ผู้ประกอบการก็ต้องมีความพร้อมด้วย เงินทุนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งกับผู้ประกอบการ เพื่อให้ภาคธุรกิจทุกระบบในจังหวัดภูเก็ตมีสภาพที่ดีขึ้นได้ตามลำดับ เพราะหากไม่สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจภูเก็ตโดยรวมให้ได้โดยเร็ว ก็จะยิ่งส่งผลกระทบที่รุนแรงกว่า และทำให้จังหวัดภูเก็ตตกอยู่ในภาวะที่ลำบากมากยิ่งขึ้น

“วันนี้ถ้าเราไปดูตัวเลขกองทุนฟื้นฟูของรัฐบาลมีอยู่ 2.5 แสนล้าน จะเป็นภาคบริการที่ได้กู้ไปแล้วแค่หมื่นล้าน ซึ่งถือว่าน้อยมาก” นายธเนศ กล่าว “ทางองค์กรเอกชนจึงอยากจะผลักดันให้เกิดการก่อตั้งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ทั้งรายเล็ก รายกลาง และรายย่อยได้เข้ามาอยู่ในระบบ”

เพราะฉะนั้นการจะเดินหน้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ยืนยันว่า ผู้ประกอบการจะต้องเข้าถึงแหล่งทุนที่สามารถนำเงินมาแก้ไขปัญหาได้จริง โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกได้แก่ กลุ่มโรงแรมที่พัก กลุ่มที่สองคือกลุ่มขนส่ง ทั้งทางบกและทางน้ำ และกลุ่มที่สามคือเป็นผู้ประกอบการทั่วไป ตั้งแต่ภาคการผลิต ทำของขายของส่ง หรือธุรกิจเล็ก ๆ น้อยที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว

“ถ้าเรามีกองทุนตัวนี้ขึ้นมาก็น่าจะดี เพราะนอกจากจะช่วยเหลือภาคเอกชนแล้ว สิ่งที่คิดก็คือแนวคิดหนึ่งของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์คือ ‘Phuket Happy for All’ แปลว่าทุกคนต้องมีความสุข เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราอยากเห็นคือ นำเงินในกองทุนไปพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน พัฒนาการผลิตสินค้าพื้นเมือง รวมถึงนำไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ และอยากให้เงินของกองทุนช่วยสนับสนุนในหลาย เรื่องที่ปัจจุบันยังคงเป็นประเด็นปัญหาจริง ๆ ของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” นายธเนศ กล่าว

สำหรับแนวคิดในการจัดตั้งกองทุน ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า “ในเบื้องต้นมีแนวคิดอยู่ 2-3 แนวคิด เช่น กู้แบงค์ชาติมาตั้งเป็นเงินกองทุน หรือทำเป็นภูเก็ตบอนด์ ‘Phuket bond’ ขายเพื่อให้ผู้ลงทุนมาลงทุน หรืออันที่สามอาจจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมบางประเภท เช่น ค่าธรรมเนียมการเข้ามาใช้พื้นที่เกาะ สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ หรืออาจนำทั้งหมดมารวมกัน หรืออาจจะมีแนวคิดอื่น ๆ ซึ่งเชื่อว่าทางรองนายกฯ ผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจะสามารถชี้แนะช่องทางได้ หรืออาจะเป็นในส่วนของกระทรวงท่องเที่ยวฯ หรือกระทรวงที่เกี่ยวของเข้ามาซื้อบอนด์เพื่อเป็นเงินตั้งต้น”

ทั้งนี้ ภาคเอกชนภูเก็ตได้ทำการสำรวจความต้องการเงินทุนของภาคธุรกิจในจังหวัดภูเก็ต โดยตัวเลขประมาณการณ์อยู่ที่ประมาณ 3 พันกว่าล้านบาท อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนคาดหวังเงินตั้งต้นกองทุนมูลค่า 5 พันล้านบาท เพื่อนำเงินจำนวนนั้นมาใช้ในการพัฒนาเกาะอย่างจริงจัง

ที่มา: สวท.ภูเก็ต

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่