คืบหน้าโชเฟอร์รถตู้ภูเก็ตเดือด ซัดกันนัว โดนรุมทำร้ายแผลเต็มตัว

ภูเก็ต - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าภูเก็ตโชเฟอร์รถตู้เดือด ซัดกันนัวเนีย โดนรุมทำร้ายแผลเต็มตัว เข้าแจ้งความ สภ.เมืองภูเก็ต ทางด้านคู่กรณีเผยเป็นการต่อสู้หลังจากตนโดนทำร้ายก่อน ส่วนการรุมทำร้ายไม่มีอย่างแน่นอน

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567, เวลา 07:53 น.

จากกรณีวันที่ 18 ก.พ. 67 ในโลกโซเชียลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีการแชร์คลิปความยาวประมาณ 20 วินาที  เป็นเหตุการณ์คนขับรถตู้ 2 คนมีการชกต่อยกันทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายซึ่งเป็นคนขับรถตู้เช่นกัน และมีคนที่อยู่ในคิวได้ออกมาห้ามปราบทั้งสองฝ่าย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหน้าคิวรถแท็กซี่ทางออกท่าเรือรัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งหลังจากที่มีการแชร์ออกไปได้มีการแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ นานา

ต่อมาในเวลา 17.44 น. ของวันเดียวกัน นายฤทธิเดช หรือติน กิ่งแก้ว อายุ 35 ปี ที่อยู่ หมู่ที่ 3 ตำบลเหล อำเภอกะปง จังหวัดพังงา ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองภูเก็ต ได้เข้าพบ พ.ต.ต.จรัส เหล็มปาน สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต โดยได้แจ้งว่า เป็นคนขับรถยนต์ตู้โดยสารป้ายทะเบียนภูเก็ต เพื่อจะไปรับผู้โดยสารบริเวณหน้าท่าเทียบเรือรัษฎา โดยผู้โดยสารได้ติดต่อผู้แจ้งทางแอปแกร็บ

เมื่อจอดรถบริเวณริมถนนด้านหน้าที่เทียบเรือรัษฎา แล้วลงมาจากรถเพื่อไปรับผู้โดยสารปรากฏว่าได้มีชายอายุประมาณ 40 ปีเข้ามาต่อว่าและตรงไปที่นายฤทธิเดชบอกว่าจอดรถไม่ได้เนื่องจากมีรถคันอื่นจะกลับรถ นายฤทธิเดชบอกว่าขอจอดแป๊บเดียว จึงเกิดมีปากเสียงกัน คู่กรณีเดินมาหานายฤทธิเดชจึงใช้หมัดชกคู่กรณีและใช้มือล็อคคอคู่กรณีไว้ ต่อมาได้มีขายประมาณ 3-4 คนมารุมทำร้ายนายฤทธิเดชได้รับบาดเจ็บ จึงมาพบหนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุดบ่ายวานนี้ (19 ก.พ.) พ.ต.ต.จรัส เหล็มปาน สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ได้นัดนายอนุวัฒน์ หรือติน และนายราเชน หรือแจ็ค คู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเจรจากันที่ สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อนัดเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ก็ไม่สามารถที่จะไกล่เกลี่ยตกลงกันได้ ในเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีทั้งสองฝั่ง ในข้อหา "ร่วมกันก่อเหตุทะเลาะวิวาทในที่สาธารณะ" ก่อนส่งฟ้องศาลต่อไป 

ด้านนายแจ็คคู่กรณีเล่าว่าไม่แน่ใจว่ากี่โมงตอนนั้นตนกำลังจะออกมาจากท่าเรือรัษฎา ปกติทุกวันตนต้องดูแลความเรียบร้อย ตนขี่รถออกมาเจอรถตู้จอดอยู่ที่ศาลาพักข้างนอกจอดขวางตรงยูเทิร์น ถ้าคนอื่นเขามากลับรถก็ต้องติดรถเขาตนก็จอดรถลงไปบอกเขาดี ๆ ว่าให้ขยับรถหน่อย เพื่อที่จะให้รถคันอื่นสัญจรไปมาสะดวกเขาก็ไม่ทำอะไร เขาก็พูดขึ้นมาว่าไม่เห็นมีใครกลับรถเลย ตนจึงบอกว่าเดี๋ยวก็มีช่วยเลื่อนรถหน่อย แล้วเขาก็ถามว่าเรื่องอะไรของพี่ ตนฟังแล้วว่ามันไม่ใช่ ตนก็ไม่ทำอะไรเขาก็เดินหนีไป หลังจากนั้นเขาก็มาต่อย จากนั้นตนก็สู้ตามประสาผู้ชาย พร้อมยืนยันว่าเรื่องรุมไม่มีแน่นอน

”มีแต่คนแถวนั้นมาห้าม มาแยกไม่ให้มีเรื่องกัน ตามคลิปที่ออกไป แต่ยังไงไม่ได้รุม เขามาห้ามแค่ว่าเห็นตอนโดนต่อย เป็นเรื่องเข้าใจผิดจริง ๆ คือเขาไม่ให้ความร่วมมือ เขาจอดรถตรงที่ยูเทิร์น แค่ตันบอกให้เลื่อนรถแต่เขากลับหันมาต่อยตน“ นายแจ็ค เล่า

ด้านนายสมัย ประเสริฐการ อายุ 48 ปี คนอยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ตอนที่ตนมาถึงเขาชกต่อยกันแล้วเขาแยกกันแล้ว ต่างคนต่างไป ไม่ทราบเรื่องเลยว่าเขาชกต่อยเรื่องอะไร เคสนี้เป็นเคสแรกเลยตามที่เขาบอกคือรถตู้จอดตรงจุดยูเทิร์นแล้วไปบอกให้เขาขยับ เพราะตอนนั้นก็เริ่มมีลูกค้าออกมาแล้วแต่เขาไม่ขยับ

ทางด้านผู้ที่เห็นเหตการณ์อีกรายเล่าว่า ตนได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนที่เขารุมกันอยู่ ”คือพี่เขามาจอดรถหน้าคิวตรงนี้เพื่อจะรับลูกค้าแต่ไม่ใช่คิวของเขา ปกติเขาจะไม่จอดรับลูกค้าหน้าคิวของคนอื่น เหมือนประมาณว่าพี่ที่คิวที่นั่งอยู่ตรงนี้บอกให้ขยับรถหน่อยเพราะรับหน้าคิวเพื่อนไม่ได้ หลังจากนั้นก็มีปากเสียงกัน แต่เหมือนกับพี่ที่คิวพูดใส่อารมณ์พูดคำหยาบก็เลยทำให้รถตู้หัวร้อนก็เลยหันไปชกพี่ที่คิวก่อน“

”หลังจากนั้นทีมงานของคนที่คิวเข้ามาช่วยเข้ามารุมผู้ชายคนนั้น พอดีตอนขายของอยู่ข้าง ๆ คนที่เขามากินของวิ่งเข้าไปช่วยก็โดนรุม หลังจากนั้นช่วยกันห้ามหลังจากรถตู้ไปก็ไม่รู้เป็นอย่างไรต่อ แต่รถตู้โดนหนักมากน่วมลงไปนอนกอดหน้าตัวเอง ตนเพิ่งมาอยู่ตรงนี้แต่จากที่ได้ฟังจากคนอื่นบอกว่าเหตุการณ์แบบนี้คือเกิดขึ้นบ่อย“

"เมื่อก่อนก็เคยมีเหตุสาเหตุน่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์ เหมือนกับตรงนี้ที่ฉันจอดตรงนี้ไม่ได้ด้วยจิตสำนึกของคนขับรถ คือการจอดรับลูกค้าหน้าคิวของคนอื่นไม่ได้ ต่างคนต่างใช้อารมณ์กันอากาศร้อน เลยทำให้มีฉุนเฉียวกันมีการลงไม้ลงมือ อันโน้นลูกค้าเขาก็สำคัญ อันนี้คิวเขาก็สำคัญประมาณนี้“

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่