กรมการขนส่งทางบก ระบุว่า เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน ผู้ขับขี่ควรตั้งสติ มองกระจกหลังเพื่อกะระยะของรถพยาบาลฉุกเฉินที่วิ่งมา และเบี่ยงซ้ายเพื่อหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉิน หรือหากไม่สามารถหลีกทางได้ด้วยเพราะสภาพการจราจรที่หนาแน่น ให้หยุดรถเพื่อให้รถพยาบาลฉุกเฉินหาทางวิ่งผ่านไป และข้อสำคัญ เมื่อรถพยาบาลฉุกเฉินวิ่งผ่านไปแล้วห้ามขับตามเด็ดขาด
กรณีรถติดและรถพยาบาลฉุกเฉินอยู่ด้านหลังพอดี ให้พิจารณาความเหมาะสมว่าควรชิดซ้ายหรือชิดขวา และเปิดไฟเลี้ยว เพื่อให้สัญญาณให้รถพยาบาลฉุกเฉิน ได้แซงผ่านไปอีกด้านได้สะดวก
ข้อควรระวัง การเจตนาไม่หลบรถพยาบาลฉุกเฉิน หรือขับรถกีดขวางเส้นทางรถพยาบาลนั้น เข้าข่ายผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 76 ระบุว่า เมื่อเห็นรถฉุกเฉินในขณะปฏิบัติหน้าที่ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ หรือได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน จะต้องให้รถฉุกเฉินผ่านไปก่อน หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
ในขณะเดียวกัน กระทรวงยุติธรรม “แจ้งเตือนขับรถขวางทางรถฉุกเฉินมีความผิด”
ผู้ที่ขับขี่รถทุกประเภท การไม่หลบให้รถพยาบาลหรือรถฉุกเฉิน มีโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยกำหนดให้ เมื่อเห็นรถฉุกเฉินในขณะปฏิบัติหน้าที่ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบหรือได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น ต้องให้รถฉุกเฉินผ่านไปก่อนโดยปฏิบัติ ดังนี้
สำหรับคนเดินเท้าต้องหยุดและหลบให้ชิดขอบทางหรือขึ้นไปบนทางเขตปลอดภัยหรือไหล่ทางที่ใกล้ที่สุด
สำหรับผู้ขับขี่ต้องหยุดรถหรือจอดรถให้อยู่ชิดขอบทางด้านซ้ายแต่ห้ามหยุดรถหรือจอดรถในทางร่วมทางแยก
หากฝ่าฝืนย่อมมีความผิดทางพินัย ต้องชำระค่าปรับเป็นเป็นพินัยไม่เกิน 500 บาทและกรณีไม่หลบรถฉุกเฉินจนเป็นเหตุให้ผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วยที่อยู่ในรถถึงแก่ชีวิต อาจมีความผิด ฐานกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท
ข้อมูลจาก : พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก่เพิ่มเติม มาตรา 76 และมาตรา 148 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 / ขอขอบคุณข้อมูลการแนะนำการให้ทางรถฉุกเฉิน จากคณะกรรมการบูรณาการ ประสานงานกรณีรถกู้ชีพฉุกเฉิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ