“เมียนมา” ติดโควิดทะลุ 1 แสนคนแล้วหลังพบผู้ป่วยต่อเนื่อง
8 ธันวาคม 2563, 09:59
"เมียนมา"เผยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม เพิ่มทะลุกว่า 1 แสนคนแล้ว หลังจากพบผู้ป่วยต่อเนื่อง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่กว่า 2,100 ราย สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาของเมียนมาแถลงว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 1,276 ราย ส่งผลให้ขณะนี้เมียนมามีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 100,431 ราย ขณะที่ จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 22 ราย สู่ระดับ 2,132 ราย ส่วนผู้ที่รักษาจนหายดีและได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้วมี 79,240 ราย รายงานข่าวระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเมียนมาได้พุ่งขึ้นอย่างมาก นับตั้งแต่ที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเป็นครั้งแรกเพียง 2 รายในวันที่ 23 มี.ค. โดยเมียนมาได้ตรวจหาเชื้อไปแล้ว 1,307,744 ตัวอย่าง อ่านโพสต์ทูเดย์ คลิก



จับผู้ชุมนุม 1 รายเจาะยาง-ทุบกระจกรถตร. ลุยเอาผิดคนพ่นสี-เทสีหน้าราบ 11
30 พฤศจิกายน 2563, 14:32








ทริปแอดไวเซอร์ ขึ้นคำเตือนโรงแรมไทยจำคุกนักท่องเที่ยว
13 พฤศจิกายน 2563, 13:14
เดอะนิวยอร์กไทมส์ รายงานเว็บไซต์ท่องเที่ยว "ทริปแอดไวเซอร์" ขึ้นคำเตือนโรงแรมแห่งหนึ่งในเกาะช้างว่า "โรงแรมนี้หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมแห่งนี้ ได้ยื่นฟ้องอาญากับผู้ใช้งานทริปแอดไวเซอร์ท่านหนึ่ง อันเนื่องมาจากรีวิวที่ได้เขียนและโพสต์ออนไลน์ เป็นผลให้ผู้เขียนรีวิวดังกล่าวถูกจำคุก ทั้งนี้ ทริปแอดไวเซอร์ให้บริการผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดีที่สุดเมื่อนักท่องเที่ยวมีอิสระในการแบ่งปันความคิดเห็นและประสบการณ์ทั้งที่เป็นแง่บวกและแง่ลบบนเวบไซต์ของเรา โรงแรมอาจใช้สิทธิ์ตามกฎหมายภายใต้กฎหมายท้องถิ่น แต่อย่างไรก็ตาม เราถือเป็นหน้าที่ที่ต้องแจ้งให้คุณทราบ เพื่อที่คุณอาจนำสิ่งนี้มาพิจารณาในการหาข้อมูลวางแผนการเดินทางของคุณ" โดยก่อนหน้านี้เวสลีย์ บาร์นส์ นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันถูกตั้งข้อหาหมิ่นประมาทฐานโพสต์วิจารณ์โรงแรมบนเกาะช้าง โดยบาร์นส์ถูกจับกุมในเดือนกันยายนและจำคุก 2 คืน ก่อนที่จะได้รับการประกันตัว และเดินทางออกจากประเทศไทยไปในสัปดาห์นี้ เมื่อบาร์นส์ออกจากประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย ทริปแอดไวเซอร์จึงดำเนินการต่อโรงแรมดังกล่าว เพื่อเตือนนักท่องเที่ยวว่าโรงแรมแห่งนี้อยู่เบื้องหลังการจำคุกนักท่องเที่ยวที่เขียนรีวิว แบรดฟอร์ด ยัง รองประธานและที่ปรึกษาทั่วไปของทริปแอดไวเซอร์กล่าวว่า "รูปแบบธุรกิจของทริปแอดไวเซอร์ตั้งอยู่บนแนวคิดว่าทุกคนมีสิทธิ์ในการเขียน และนี่เป็นกรณีแรกที่เราทราบว่ามีสมาชิกถูกดำเนินคดีหลังจากที่เขาเขียนวิจารณ์ลงบนเว็บไซต์ของเรา" ทางโรงแรมออกมาพูดหลังจากถูกติดคำเตือนดังกล่าวว่า ผิดหวังอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยืนยันว่าข้อความเตือนจากทริปแอดไวเซอร์ทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างยิ่งและขาดข้อมูลที่ครบถ้วน ทั้งนี้ บาร์นส์ได้โพสต์วิจารณ์โรงแรมในเดือนมิถุนายน เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมในการเปิดขวด ซึ่งทางโรงแรมพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลบโพสต์ดังกล่าว แต่ไม่สำเร็จจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากดำเนินคดี อ่านโพสต์ทูเดย์ คลิก

ลำดับเหตุการณ์ทหารเกาหลีใต้กลับจากฝึกคอบบร้าโกลด์ติดโควิด
12 พฤศจิกายน 2563, 12:47
กรมควบคุมโรคแจงยิบหลังทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทยแจ้งทหารเกาหลีใต้ติดโควิด-19 หลังกลับจากฝึกคอบบร้าโกลด์ ครั้งที่ 21 ที่ระยองติดโควิด-19 เมื่อวันที่ 11 พ.ย. พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงกรณีทหารเกาหลีใต้ติดโควิด-19 หลังกลับจากไทยว่า เนื่องด้วยมีการประชุมวางแผนขั้นสุดท้ายของการฝึกคอบบร้าโกลด์ ครั้งที่ 21 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3-5 พ.ย.2563 มีการแบ่งกันประชุมจำนวน 5 กลุ่มย่อย กลุ่มละ 40 นาย ซึ่งการประชุมก็มีทหารต่างชาติ และ ทหารไทยรวมทั้งหมด 202 นาย โดยเป็นทหารต่างชาติ 25 นาย ประกอบด้วย สหรัฐฯ 12 นาย เกาหลีใต้ 5 นาย ออสเตรเลีย 2 นาย อินโดนีเซีย 2 นาย สิงคโปร์ 1 นาย จีน 1 นาย อินเดีย 1 นาย และทหารไทย 177 นาย อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง นอกจากประชุมร่วมกันแล้วก็มีการรับประทานอาการกลางวัน และ อาหารเย็นร่วมกัน เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ โดยทหารจากต่างชาติทุกนายก็จะต้องมีการปฏิบัติตามข้อกำหนด คือ มีการตรวจเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้าประเทศไทย มีการกักตัวใน Alternative State Quarantine หรือ ASQ เป็นเวลา 14 วัน และก็มีการตรวจหาเชื้อจำนวน 2 ครั้ง โดยตรวจทุกนาย และ ไม่พบการติดเชื้อโควิด-19 สำหรับไทม์ไลน์ของทหารเกาหลีคนดังกล่าว มีดังนี้ 9 พ.ย. ประเทศไทยได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย แจ้งว่า หลังจากทหารเกาหลีใต้กลับจากไทยก็มีการตรวจหาเชื้อที่สนามบินอินชอน และผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 17 ต.ค. นายทหารที่ติดเชื้อโควิด-19 รายดังกล่าวเข้ามายังประเทศไทย เมื่อเดินทางมาถึงก็มีรถตู้จากโรงแรมมารับ และเข้าพักในโรงแรมที่เป็น ASQ จากนั้นได้กักตัวตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. - 1 พ.ย.มีการตรวจหาเชื้อจำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 22 ต.ค. และ 29 ต.ค. ผลออกมาก็ไม่พบเชื้อ ก่อนเดินทางมายังประเทศไทยก็มีการตรวจหาเชื้อก็ไม่พบเช่นกันหลังจากมีการกักตัว ก็ย้ายไปพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท โดยมีรถของกองอำนวยการฝึกไปรับ มีการไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร มีการใส่หน้ากาก และ เว้นระยะห่าง 2 พ.ย. มีรถตู้รับจ้างของสถานทูตไปรับที่โรงแรมเพื่อเดินทางไปพักที่โรงแรมใน อ.บ้านฉาง และทหารนายนี้ไม่ได้ออกจากโรงแรม เพราะมีการฝึกตั้งแต่วันที่ 3-5 พ.ย. หลังจากฝึกเรียบร้อยแล้วก็เดินทางกลับในวันที่ 6 พ.ย. โดยมีรถตู้ไปรับมาส่งที่โรงแรมย่านสุขุมวิท ซึ่งต้องมีการตรวจสอบว่าพักในโรงแรมไหน ในวันที่ 7 พ.ย. ก็ยังมีการพักในโรงแรม 8 พ.ย. โดยสารรถตู้รับจ้างของสถานทูตไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางกลับเกาหลีใต้ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสบายใจ ยืนยันว่าทหารต่างชาติที่เข้ามาได้มีการกักตัว 14 วัน และตรวจหาเชื้อ โดยทหารต่างชาติก็ไม่ได้เดินทางไปไหนจะอยู่แต่ในที่ประชุม ขณะนี้ทีมสอบสวนควบคุมโรค ได้ลงพื้นที่สอบสวนทั้ง ASQ ที่ทหารนายนี้เข้าพัก รวมถึงโรงแรมที่จัดประชุม และติดตามนายทหารไทยที่เข้าประชุมร่วม ตอนนี้อยู่ในระหว่างส่งตรวจหาเชื้อ บางนายได้ตรวจเรียบร้อยแล้ว อยู่ในขั้นตอนรวบรวมจำนวน และทุกนายก็ได้เข้ากักตัวแล้ว อ่านโพสต์ทูเดย์ คลิก



ไบเดน-แฮร์ริส แถลงครั้งแรกหลังได้รับชัยชนะ
8 พฤศจิกายน 2563, 09:29
โจ ไบเดน และกมลา แฮร์ริส กล่าวคำปราศรัยครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี ที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ท่ามกลางกลุ่มผู้สนับสนุนส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ แฮร์ริส กล่าวว่า "จอห์น ลูอิสเคยกล่าวไว้ว่าประชาธิปไตยไม่ใช่รัฐแต่คือการกระทำ ไม่มีการรับรองประชาธิปไตยของสหรัฐอเมริกา แต่มันจะแข็งแกร่งตราบเท่าที่เราต่อสู้เพื่อมัน เพราะพวกเราประชาชนมีพลังที่จะสร้างอนาคตที่ดีขึ้น" พร้อมกล่าวสโลแกนของโจ ไบเดน "คุณนำวันใหม่สำหรับอเมริกา" แฮร์ริสยืนยันว่าประชาชนได้เลือกถูกคนแล้ว "คุณเลือกความหวัง ความสามัคคีความ และความเหมาะสม คุณเลือกโจไบเดนเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐอเมริกา" อ่านโพสทูเดย์ คลิก