ชาย-หญิงโหด ขี่จยย.ประกบยิงกระสุนทะลุปอดในคืนไหว้เทวดา
5 กุมภาพันธ์ 2560, 09:27
เมื่อเวลา 00.00 วันที่ 5 ก.พ.2560 พ.ต.ท.สานิช หนูคง สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลถลาง ว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโดนยิงมาพักรักษาตัวภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ขอให้เดินทางมาตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจภายในห้องฟื้นชีพ พบนายอนุรักษ์ นาคปนแก้ว อายุ 18 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด เข้าด้านหลังขวา 1 นัด กระสุนฝังในทะลุปอด แพทย์เวรและเจ้าหน้าที่กำลังให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน แต่เนื่องยังไม่พ้นขีดอันตรายได้ส่งต่อไปรักษาที่ รพ.วชิระภูเก็ต จากการสอบสวนนายมงคล หมอยา อายุ 14 ปี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากศาลเจ้าบู้เส้งต๋อง ในเขตพื้นที่ถลาง โดยมีนายอนุรักษ์ นาคปนแก้วโดยสารไปด้วยเพื่อไปซื้อของมาประกอบพิธีไหว้เทวดาเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุหน้าโรงน้ำแข็งทุ่งทอง ถ.เทพกระษัตรี (ขาออกนอกเมือง) ม.1 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ได้มีคนร้าย 2 คน โดยผู้ขับจักรยานยนต์เป็นชาย ส่วนผู้โดยสารซ้อนท้ายเป็นหญิง พาหนะที่ใช้คือจักรยานยนต์ฮอนด้า PCX สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ตามประกบ จากนั้นคนร้ายผู้ชายที่เป็นคนขับได้ชักอาวุธปืนยิงใส่นายอนุรักษ์ จำนวน 1 นัดก่อนคนร้ายจะบิดคันเร่ง จยย.ขับหลบหนีไปทางสี่แยกถลางด้านพ.ต.ท.สานิช กล่าวว่า คาดว่าผู้บาดเจ็บเคยมีเรื่องบาดหมางกับคนร้ายกันมาก่อน ซึ่งตอนนี้ได้ทำการสอบปากคำผู้บาดเจ็บเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะเร่งทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 2 คน ที่หลบหนีอยู่มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




หนุ่มเมียนมาถูกแทงดับ คาดฝีมือเพื่อนร่วมชาติ
3 กุมภาพันธ์ 2560, 09:34
เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 2 ก.พ. ศูนย์วิทยุเมืองภูเก็ตได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันขึ้นที่บริเวณหลังตลาดนัดใกล้สะพานเกาะสิเหร่ ถ.ศรีสุทัศน์ ต.รัษฎา อ.เมืองมี ผู้เสียชีวิต จึงพร้อมด้วยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างชายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีดำนอนหงายจมกองเลือดอยู่ที่พื้น ตรวจสอบพบเงินสดกว่า 3,000 บาท เอกสารบุคคลต่างด้าวจำนวนหนึ่ง ทราบชื่อคือ นายหม่อง ชาวเมียนมาร์ อายุ 25 ปีถูกแทงด้วยของมีคมเข้าตามร่างกายหลังแห่ง บริเวณใกล้เคียงพบหยดเลือดที่พื้นเป็นจำนวนมาก แต่ไม่พบอาวุธที่ใช้ทำร้ายผู้ตาย จึงนำศพส่งชันสูตรที่ รพ.วชิระภูเก็ตเบื้องต้นคาดว่าผู้ตายอาจมีเรื่องกับแรงงานต่างด้าวด้วยกัน ซึ่งบริเวณดังกล่าวส่วนใหญ่มีแรงงานชาวเมียนมาร์พักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากใกล้แพปลาและท่าเทียบเรือ จึงคาดว่าอาจเกิดทะเลาะวิวาทกันขึ้นแล้วถูกรุมแทงจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ตร.คุมตัวชายขอทานวัย 67 ในงานวัดฉลอง พบเงินสดนับแสน
2 กุมภาพันธ์ 2560, 09:40
  เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 1 ก.พ. 60 ที่วัดไชยธารารามหรือวัดฉลอง ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.ธีรพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต  พ.ต.อ.ชูเกียรติ อิ่มใจธรรม  รักษาราชการแทน ผกก.สภ.ฉลอง  พ.ต.ท.ปริญญา ตัณฑสุวรรณ รอง ผกก.ป.สภ.ฉลอง นายณัฐวัต ขวัญปาน เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งภูเก็ต (บ้านมิตรไมตรีภูเก็ต) กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  นายศุภวัฒกัณฐ์ คุณลักษณ์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลฉลอง ร่วมกันสอบสวนชายชราพิการขาข้าซ้าย ที่มีพฤติกรรมขอทาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ได้ภายในบริเวณวัด หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีกลุ่มขอทานเข้ามาขอทานในช่วงที่มีการจัดงานประจำปีหรืองานวัด สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่เข้ามาร่วมงานวัด   เบื้องต้นได้ตรวจค้นพบบัตรประจำตัวประชาชนระบุคือ ชื่อนาย ฮกจ๋าย ขอสงวนนามสกุล อายุ 67 ปี พบว่าทรัพย์สินที่มีติดตัวพบมีเงินทั้งธนบัตรใบละ 20 และเหรียญอีกจำนวนมาก นับรวมกันประมาณ 1 พันบาท นอกจากนี้ยังมีถุงดำบรรจุกระป๋อง ขวดน้ำ ต่างๆ ที่ติดตัวมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่พยายามสอบถามเพิ่มเติม แต่นายฮกจ่าย ได้พยายามปฎิเสธ และบอกว่ามีเงินติดตัวเพียงประมาณ 1 พันเท่านั้น    ขณะที่พยายามสอบถามข้อมูลอยู่นั้น นายศุภวัฒกัณฐ์ คุณลักษณ์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลฉลอง ได้สังเกตุเห็นว่าที่ขอบกางเกงของนายฮกจ๋าย มีลักษณะบวมป่องผิดปกติ อีกทั้งเมื่อเข้าไปใกล้ก็พยายามปัดมือออกห่าง มีพิรุธ จึงจับดูที่บริเวณรอบเอวจึงพบว่ามีการซุกซ่อนเงินไว้ในถุงพลาสติดก่อนมัดด้วยเชือกฟางไว้รอบเอว จึงขอให้แกะมาตรวจสอบ โดยช่วงแรกนายฮกจ๋ายพยายามขัดขืน จ้าหน้าที่จึงพยายามพูดคุยจนนายฮกจ๋ายยอมให้นำออกมานับ ซึ่งพบว่ามีจำนวน 13 มัด (ถุง) จำนวนเท่าๆกัน เจ้าหน้าที่ตรวจนับเพียงถุงแรกนับได้ประมาณ 7,000 บาท และคำนวนเบื้องต้นน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท จึงให้เจ้าหน้าที่นำตัวส่งศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งภูเก็ต (บ้านมิตรไมตรีภูเก็ต) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำประวัติก่อนให้การช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป   อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ธีรพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต  กล่าวว่า การควบคุมตัวขอทานรายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฉลองได้รับแจ้งจากประชาชน ว่ามีกลุ่มขอทานอาศัยช่วงที่มีงานประจำปีเข้ามาขอทานภายในงาน จึงเข้มงวดตรวจสอบ กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ18.15 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง นำโดย พ.ต.ท.สุชาติ สิงหา รอง สวป.สภ.ฉลอง ปฏิบัติงาน หน.จร.สภ.ฉลอง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่มาดูแลความเรียบร้อยตามปกติ ก่อนจะพบตัวนายฮกจ๋ายอยู่ใกล้ประตูทางเข้าวัด จึงควบคุมตัวไว้ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ พัฒนาสังคม ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งภูเก็ตมาร่วมตรวจสอบ   ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้พ.ต.ท.ปริญญา ตัณฑสุวรรณ รอง ผกก.ป.สภ.ฉลอง นำตัวไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.ฉลอง ก่อนจะส่งตัวเจ้าหน้าที่ พัฒนาสังคม ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งภูเก็ต (บ้านมิตรไมตรีภูเก็ต)มารับตัวเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป    อย่างไรก็ตามในส่วนของเงินสดที่พบจำนวนมากนั้น ล่าสุดทราบว่าเป็นเงินเก็บที่มาจากการเก็บของเก่าขาย โดยมีการพกติดตัวตลอดเวลา เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะสูญหายหรือเกิดอันตรายจึงจะต้องจะดำเนินการตรวจนับก่อนนำไปเปิดบัญชีฝากเข้าธนาคารให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัยต่อไป

สองสาวถูกวัยรุ่นปาดจยย.แถมขู่ฆ่า โร่แจ้งความหวั่นอันตราย
30 มกราคม 2560, 11:06
เมื่อเวลา 05.25 น. วันที่ 30 มค. 60 พ.ต.ท. สานิช หนูคง สว. (สอบสวน) สภ. ถลาง รับแจ้งจาก นางสาวกุหลาบ ไร่ใหญ่ 25 ปี และ นางสาวชุติมา ยองเพชร 22 ปี ว่าโดนสองวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์ปาดหน้าขู่ฆ่าทั้งๆที่ไม่รู้จักกันและไม่ได้เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน ทั้งสองสาวให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเมื่อเวลา 04.00 น.ของคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ตนเที่ยวที่ผับแห่งหนึ่งในพื้นที่ถลาง ได้ขับจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้าน เมื่อถึงหน้าร้านสะดวกซื้อ เซเว่นฯ สาขาท่าเรือก่อนถึงอนุสาวรีย์ได้มีวัยรุ่นชายจำนวน 2 คนอายุประมาณ 25 - 29 ปี ขับจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีชมพู มาปาดหน้าแล้วใช้วาจาด่าทอว่าเสียๆหายพร้อมทั้งขู่ว่าจะฆ่าให้ตายถ้าหากไปแจ้งตำรวจ ทำเอาสาวทั้งสองงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้ผู้เสียหายตกใจหวีดเสียงดัง เพื่อขอความเหลือคนร้ายจึงได้หนีไป และกลัวว่าจะเป็นอันตรายจึงได้ไปแจ้งความและลงบันทึกเป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรถลางเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายต่อไป